Home > 2018 > กรกฎาคม (Page 2)

NPP อาศัย CP เป็นสปริงบอร์ด ขึ้นยอดเนิน Kinghill Food

ข่าวการประกาศผนึกกำลังระหว่าง NPP และบริษัทในเครือ Kinghill Overseas Holdings Limited ซึ่งเป็นบริษัทลูกในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ในประเทศจีน เพื่อจัดตั้งบริษัท Kinghill Food เพื่อดำเนินธุรกิจร้านอาหารในประเทศจีน พร้อมกับขยายแฟรนไชส์ทั่วประเทศจีน เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนจีน ย่อมไม่ใช่เพียงข่าวประชาสัมพันธ์ที่จะมองข้ามไปได้ หากแต่ในความเป็นจริงจังหวะก้าวของทั้ง NPP และกลุ่มบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ในครั้งนี้ กำลังเป็นภาพสะท้อนยุทธศาสตร์ทางธุรกิจที่แหลมคม และการรุกคืบเพื่อขยายบริบททางธุรกิจเข้าสู่ตลาดที่มีกำลังซื้อขนาดใหญ่ และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 20-30 ซึ่งนั่นย่อมหมายถึงโอกาสทางธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และเป็นการเพิ่มศักยภาพในการขยายร้านอาหารต่างๆ รวมถึงการพัฒนาร้านอาหารในประเทศจีนมากขึ้น ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจก็คือบริษัทในเครือ Kinghill Overseas Holdings Limited ซึ่งเป็นบริษัทลูกในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ในประเทศจีน ที่ร่วมทุนจัดตั้ง Kinghill Food ในครั้งนี้เป็นผู้ประกอบการด้านธุรกิจคอมมูนิตี้มอลล์ และชอปปิ้งมอลล์ รายใหญ่สุดของประเทศจีน การร่วมทุนในครั้งนี้จึงเป็นประหนึ่งการเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับผู้ร่วมทุนทั้งสองฝ่าย ที่พร้อมจะต่อยอดธุรกิจอาหารรองรับจำนวนประชากรของจีนที่มีสูงถึง 1,400 ล้านคน และรูปแบบประพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไป บริษัท Kinghill Food ที่จัดตั้งขึ้นใหม่นี้ บริษัทในเครือ Kinghill Overseas

Read More

พายเขียวหวานไก่ ไร้ไขมันทรานส์จากแมคโดนัลด์

ไขมันทรานส์ คืออะไร ไขมันทรานส์ คือ กรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีโครงสร้างชนิดทรานส์ (trans) แหล่งของไขมันชนิดนี้พบได้ในปริมาณเล็กน้อยตามธรรมชาติในผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ส่วนใหญ่เกิดจากการสังเคราะห์ขึ้นผ่านวิธีแปรรูปโดยกระบวนการเติมไฮโดรเจนเข้าไปในน้ำมันพืช ทำให้น้ำมันพืชแข็งตัวมากขึ้น ไขมันชนิดนี้เป็นไขมันที่มีลักษณะไม่เป็นไข และสามารถทนกับความร้อนได้สูง สามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่มีกลิ่นเหม็นหืน และให้รสชาติเหมือนกับไขมันที่ได้ จากสัตว์ มักพบไขมันทรานส์ในเนยเทียม มาร์การีน ผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว ครีมเทียม ฯลฯ ไขมันทรานส์ ส่งผลต่อโดยตรงต่อระบบการทำงานของระบบเอนไซม์ในร่างกายของเรา ทำให้ไขมันชนิดดีในร่างกายของเราลดลงหรือถูกทำลายไป และเพิ่มจำนวนไขมันชนิดเลวให้แก่ร่างกาย และไม่สามารถย่อยสลาย ทำให้เพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด เมนูปลอดภัยไร้ไขมันทรานส์ ในฐานะผู้นำธุรกิจอาหารมาตรฐานระดับโลก แมคโดนัลด์มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจที่มีมาตรฐาน โดยตอกย้ำเรื่องคุณภาพอาหารที่ดีมีความปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค จากกรณีดังกล่าว ขอเรียนชี้แจงดังนี้ น้ำมันที่ใช้ทอดอาหาร เราใช้น้ำมันปาล์มที่ผ่านกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานปราศจากไขมันทรานส์ จากซัพพลายเออร์ภายในประเทศ โดยมีหลักปฏิบัติในตรวจสอบคุณภาพน้ำมันที่ใช้ทอดอาหารอย่างสม่ำเสมอ เพื่อควบคุมคุณภาพของอาหารให้ได้ตามมาตรฐานของแมคโดนัลด์ เฟรนช์ฟรายส์ เราใช้มันฝรั่งแท้ 100% พันธุ์ Russet Burbank, Russet Ranger, Umatilla Russet และ Shepody ซึ่งเป็นมันฝรั่งที่มีคุณภาพ ทอดด้วยน้ำมันพืชที่ปราศจากไขมันทรานส์ เบอร์เกอร์ เราใช้วัตถุดิบคุณภาพดีที่ไม่มีส่วนประกอบของไขมันทรานส์ในการผลิตขนมปังเนื้อนุ่ม สีน้ำตาลทอง มีน้ำหนักและขนาดเท่ากันเป็นไปตาม Gold Standard ของแมคโดนัลด์ พาย เราได้รับทราบล่วงหน้าถึงมาตรการที่ทางกระทรวงสาธารณสุขจะออกมาบังคับใช้กับกรดไขมันทรานส์ จึงได้ร่วมมือกับซัพพลายเออร์คิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องจนได้พายที่ไร้ไขมันทรานส์และมีความปลอดภัย ต่อผู้บริโภค

Read More

ท่องเที่ยวบูม-ทัวร์จีนมา สังคมไทยหรือใครได้ประโยชน์??

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าสังคมไทยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลไกภาครัฐ จะพยายามเน้นย้ำความสำเร็จในการส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยในฐานะที่เป็นจักรกลในการเสริมสร้างรายได้และหนุนนำภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ให้สามารถหลุดพ้นจากภาวะซบเซาที่ดำเนินต่อเนื่องยาวนานได้ ตัวเลขสถิติทั้งในมิติของจำนวนนักท่องเที่ยวและปริมาณรายได้ที่หน่วยงานภาครัฐนำเสนอออกสู่สาธารณะในฐานะที่เป็นปัจจัยบ่งชี้ความสำเร็จและผลสัมฤทธิ์ในเชิงนโยบาย หลั่งไหลออกมาเป็นระยะควบคู่กับมาตรการส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยว ด้วยหวังจะโหมประโคมให้การท่องเที่ยวเป็นธุรกิจอุตสาหกรรมหลักในการฉุดกระชากซากเน่าทางเศรษฐกิจที่จมอยู่ในปลักแห่งความถดถอยมาเกือบทศวรรษ ทั้งจากวิกฤตความขัดแย้งและความไม่แน่นอนทางการเมือง ต่อเนื่องมาสู่ความด้อยปัญญาและประสิทธิภาพในการบริหาร และยุคเปลี่ยนผ่านในสมัยแห่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในปัจจุบัน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการนำเสนอแผนประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมา ดูจะภาคภูมิใจต่อความเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยวไทยเป็นอย่างมาก และนำเสนอตัวเลขที่เชื่อว่าเป็นดัชนีบ่งชี้ความสำเร็จในรูปของประมาณการรายได้ที่ประเทศไทยจะได้รับจากการท่องเที่ยวที่ขยายตัวขึ้นนี้ กรณีดังกล่าวได้รับการขับเน้นจากการแถลงแผนการท่องเที่ยวปี 2562 เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยททท. เชื่อว่าการท่องเที่ยวไทยยังจะเติบโตต่อไปอีกในอัตราร้อยละ 12 ซึ่งจะสร้างให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวมูลค่ารวมกว่า 3.46 ล้านล้านบาท แม้ว่าในห้วงเวลาแห่งการแถลงแผนท่องเที่ยวของ ททท. สังคมไทยกำลังถูกตั้งคำถามว่าด้วยมาตรฐานความปลอดภัย ควบคู่กับประเด็นว่าด้วยข้อเท็จจริงและรายละเอียดของผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวที่มีอยู่ในสังคมไทยก็ตาม ข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับการเติบโตขึ้นของธุรกิจท่องเที่ยวไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็คือการหลั่งไหลเข้ามาของนักท่องเที่ยวชาวจีน ดูจะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนเสริมให้การท่องเที่ยวไทยขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงมกราคมถึงพฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยรวมมากถึงกว่า 5 ล้านคน เป็นการเพิ่มขึ้นด้วยอัตราเร่งเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่อยู่ในระดับ 4 ล้านคนโดยกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬาประเมินว่านักท่องเที่ยวชาวจีนเหล่านี้นำพาให้เกิดรายได้เข้าประเทศไทยมากถึง 2.7 แสนล้านบาท การเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ดำเนินต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2559 แม้จะส่งผลเชิงบวกต่อตัวเลขภาพรวมของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย และได้รับการประเมินว่าเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่สร้างเสริมรายได้ให้กับภาคธุรกิจการท่องเที่ยวของไทย หากแต่การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวจีนในอีกด้านหนึ่งกลับกลายเป็นช่องทางหลักที่กลุ่มทุนจีนเห็นโอกาสในการลงทุนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแบบครบวงจร ชนิดที่เรียกได้ว่าเป็นกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำกระทั่งสิ้นสุดที่ปลายน้ำ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจากชาติเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร ร้านขายสินค้าที่ระลึก บริษัทนำเที่ยว ศูนย์รวมความบันเทิง ซึ่งสามารถรองรับความต้องการของตลาดท่องเที่ยวจีน ตั้งแต่ระดับกลางถึงระดับล่างเลยทีเดียว กิจกรรมและกิจการของนักธุรกิจจากจีนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ในลักษณะผูกขาดและกินรวบดังกล่าว นอกจากจะติดตามมาด้วยเรื่องมาตรฐานการให้บริการ ซึ่ง ททท.

Read More

เคทีซีจัดกิจกรรม “ย้อนกาลเก่า เล่ารัตนโกสินทร์ ยินผ่านวรรณกรรม” ช่วงรัชกาลที่ 4

เมื่อเร็วๆ นี้ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินชมรม “KTC PR Press Club” จัดกิจกรรม “ย้อนกาลเก่า เล่ารัตนโกสินทร์ ยินผ่านวรรณกรรม” ช่วงรัชกาลที่ 4 โดยมีอาจารย์จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะวัฒนธรรมร่วมเป็นวิทยากรให้ความรู้ย้อนอดีตรัตนโกสินทร์ในช่วงสมัยรัชกาลที่ 4 โดยสะท้อนเรื่องราวผ่านแว่นวรรณกรรมที่มีสกุล “บุนนาค” เป็นดั่งตัวละครสำคัญที่เติมเต็มยุคประวัติศาสตร์ช่วงนั้นให้สมบูรณ์ และยังบ่งบอกถึงการเปิดรับอารยธรรมตะวันตกเข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศไทยในหลายด้าน ทั้งการศึกษา การทหาร การยกเลิกประเพณีและความเชื่อเก่าๆ หันมายอมรับความคิดแบบใหม่ ทำให้ฐานะทางเศรษฐกิจของประเทศและประชาชนยกระดับสูงขึ้น ณ วัดพิชยญาติการามวรวิหาร และวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร รวมทั้งรับฟังเรื่องราวความเฟื่องฟูทางด้านการค้าและการขนส่งทางน้ำกับต่างประเทศทั้งซีกโลกตะวันออกและตะวันตกในช่วงรัชกาลที่ 4 ณ ล้ง 1919 พร้อมชมอุทยานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีซึ่งตั้งอยู่ในละแวกใกล้กันก่อนกลับ

Read More

“NPP” ประกาศร่วมทุน “CP จีน” ตั้งบริษัทย่อยภายใต้ชื่อ “Kinghill Food” ปักธงสร้างธุรกิจร้านอาหารไทยในประเทศจีน-หนุนรายได้โตก้าวกระโดด

NPP ผนึกกำลัง กลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) ในประเทศจีน ตั้งบริษัทร่วมทุน ภายใต้ชื่อ “Kinghill Food” ลุยสร้างธุรกิจร้านอาหารครบวงจร และอื่นๆ ในประเทศจีน พร้อมกับขยาย Franchise ทั่วประเทศจีน เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนจีน เตรียมดีเดย์ เปิดสาขาแรกที่ เซี่ยงไฮ้ ภายในไตรมาส 4/2561 และหวังกำลังซื้อจากประชากรจีนที่สูงถึง 1,400 ล้านคน สร้างความมั่นใจต่อแผนขยายร้านอาหาร และขยาย Franchise model หนุนรายได้ธุรกิจอาหารใน 3 ปีข้างหน้าโต 3-4 เท่าตัว แย้มเปิดแบรนด์ที่จะเปิดเร็วๆ นี้ นายศุภจักร ไตรรัตโนภาส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็นพีพีจี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NPP เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติให้ NPP เตรียมจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัทในเครือ Kinghill

Read More

สงครามการค้าอุบัติ กระทบส่งออกไทย?

ฟันเฟืองตัวสำคัญในระบบเศรษฐกิจของไทยอย่างการส่งออก ที่หลายคนให้ความเชื่อมั่นว่าจะเป็นกำลังหลักที่ทำให้เกิดเสถียรภาพและแรงผลักสำคัญทำให้เศรษฐกิจไทยยังคงขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งอัตราการขยายตัวที่มีความต่อเนื่องอยู่ในระดับที่ดีนับตั้งแต่ต้นปี แม้ว่าจะเป็นรูปแบบการค้าที่ขาดดุลในรอบ 43 เดือนก็ตาม หากแต่สภาพการณ์ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจึงไม่น่าแปลกที่หลายฝ่ายยังคงมองว่า การส่งออกของไทยน่าจะยังมีแรงเหวี่ยงที่ดีในช่วงครึ่งปีที่เหลือ แม้จะต้องจับตามองต่อประเด็นการเกิดสงครามการค้าระหว่าง 2 ประเทศมหาอำนาจอย่างจีนและสหรัฐฯ ที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะเป็นช่วงที่คลื่นลมสงบ เพราะเหตุผลจากการให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่ตอบโต้ทางการค้าระหว่างกันเพิ่มขึ้น ทำให้บรรดานักธุรกิจส่งออก ศูนย์วิจัย ที่ต่างลุ้นว่าทิศทางการค้าระหว่างประเทศจะเป็นอย่างไรนั้น เบาใจอยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ทว่าห้วงยามนี้คลื่นลมที่เคยสงบตามคำมั่นสัญญา กลับเริ่มแสดงสัญญาณบางอย่าง เพราะเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรา 25 เปอร์เซ็นต์ วงเงิน 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรการโต้กลับจีน ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งเตรียมเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ในอัตราและวงเงินเดียวกัน ซึ่งเป้าหมายอยู่ที่สินค้าเกษตร รถยนต์ นับว่าการรีดภาษีของทั้งสองประเทศเป็นการเปิดศึกแลกหมัดอย่างเต็มรูปแบบ แน่นอนว่าสงครามการค้าที่มีชนวนเหตุมาจากสหรัฐฯ และจีน ทำให้สถานการณ์ส่งออกของไทยได้รับผลกระทบอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เมื่อสินค้าส่งออกของไทยจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในวงจรการค้าโลก กระทั่งล่าสุดกระทรวงพาณิชย์สั่งจับตาสถานการณ์นี้เป็นพิเศษ โดยเฉพาะกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศที่มีหน้าที่โดยตรง การงัดมาตรการทางภาษีตอบโต้กันระหว่างสหรัฐฯ และจีน ทำให้ไทยต้องรักษาฐานที่มั่นซึ่งเป็นตลาดค้าเดิม และยังต้องหามาตรการอื่นๆ มารองรับหากสถานการณ์ไม่สู้ดี นั่นคือการมองหาตลาดใหม่สำหรับสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าในครั้งนี้ ขณะที่รองอธิบดีกรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สุพพัต อ่องแสงคุณ อธิบายแนวทางว่า “สถานการณ์สงครามการค้านี้ ต้องมอนิเตอร์เป็นรายกลุ่ม และต้องพยายามรักษาแรงเหวี่ยงของการส่งออกในทุกตลาด” นอกจากนี้กรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศยังได้พิจารณาตลาดใหม่ไว้สำหรับสถานการณ์สงครามการค้าที่อาจกระทบไทยในอนาคต เช่น ตลาดตะวันออกกลาง

Read More

Unseen-Unsafe Thailand มาตรฐานความปลอดภัยที่ต้องปรับปรุง

แม้ว่าภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่าติดถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ที่ดำเนินต่อเนื่องมากว่า 2 สัปดาห์จะลุล่วงและประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี พร้อมกับกระแสที่สร้างความตื่นตัวขจรขจายกลายเป็นข่าวดังไปทั่วทุกมุมโลก และส่งผ่านความน่ายินดีมาสู่ปฏิบัติการกู้ชีพกู้ภัยที่อาจเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในสังคมไทยในรอบหลายปี หากแต่ท่ามกลางปฏิบัติการกู้ชีพกู้ภัยนำพาชีวิตทีมหมูป่าออกจากถ้ำ เพื่อมาสู่แสงสว่างแห่งชีวิตอีกครั้ง ในอีกด้านหนึ่งของสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจท่องเที่ยวไทยกลับต้องประสบเหตุโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ เมื่อเรือท่องเที่ยวซึ่งมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนเกือบร้อยชีวิตไม่สามารถฝ่าคลื่นลมจนต้องประสบภัยจมดิ่งสู่ก้นทะเล พร้อมกับคร่าชีวิตผู้คนไปมากถึง 43 ราย และยังมีผู้สูญหายอีก 2 ราย ภาพที่ตัดกันของนักท่องเที่ยวเด็กในนาม ทีมหมูป่า ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย ซึ่งกลายเป็นจุดศูนย์กลางของความสนใจของผู้คนทั่วทุกมุมโลก กับภาพของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เผชิญเหตุประสบภัยกลางทะเลอันดามัน จังหวัดภูเก็ต นอกจากจะสะท้อนการนำเสนอข่าวสารของสื่อสารมวลชนในยุคที่โลกโซเชียลออนไลน์มีส่วนสำคัญ ในการนำพาอารมณ์ความรู้สึกของผู้คนในสังคมแล้ว กรณีดังกล่าวยังนำไปสู่การตั้งคำถามหลากหลายในการบริหารจัดการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยอีกด้วย แต่จุดเชื่อมของคำถามที่เหลื่อมซ้อนกันจากเหตุดังกล่าวก็คือ การท่องเที่ยวของไทยมีมาตรการด้านความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด และประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัยในระดับใดกันแน่ ภาพสะท้อนกรณีดังกล่าว ถูกนำเสนออย่างเด่นชัดเมื่อสื่อมวลชนระดับนำของญี่ปุ่น “นิกเคอิ เอเชียน รีวิว” ตีพิมพ์รายงานเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ด้วยการตั้งคำถามแหลมคมต่อสังคมไทย ซึ่งบางส่วนกำลังอยู่ในอารมณ์คลายกังวลและชื่นชมที่ปฏิบัติการช่วยเหลือทีมหมูป่าออกจากถ้ำและรักษาชีวิตของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไว้ได้สำเร็จ ว่าการท่องเที่ยวไทยมีความปลอดภัยเพียงใด เป็นคำถามที่เกิดขึ้นหลังจากที่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุว่ากรมอุทยานฯ ได้สั่งปิดการท่องเที่ยวถ้ำจำนวน 169 แห่ง จนกว่าจะมีการประเมินความปลอดภัยช่วงฤดูฝน นอกจากนี้ ยังระบุว่าต่อไปจะต้องมีการลงทะเบียนผู้เข้า-ออกถ้ำในเขตอุทยานฯ และวนอุทยานฯ ด้วย ก่อนหน้านี้

Read More

บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) ฉลองความสำเร็จขายหุ้นกู้ 6,700 ล้านบาท

บี.กริม เพาเวอร์ (BGRIM) ฉลองความสำเร็จขายหุ้นกู้ 6,700 ล้านบาท เพื่อลดภาระต้นทุนทางการเงิน สร้างความแข็งแกร่งให้กลุ่มธุรกิจ นักลงทุนสถาบัน-รายใหญ่ เชื่อมั่นให้การตอบรับเป็นอย่างดี นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘BGRIM’ ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของประเทศ ร่วมฉลองความสำเร็จการออกหุ้นกู้ ของบริษัทย่อย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท บี.กริม บีไอพี เพาเวอร์ 1 จำกัด และ บริษัท บี.กริม บีไอพี เพาเวอร์ 2 จำกัด รวมมูลค่า 6,700 ล้านบาท โดยมีตัวแทนจาก 2 บริษัทผู้จัดการจัดจำหน่ายหุ้นกู้คือ นายสมสกุล วินิชบุตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ Client Coverage 2.1

Read More

เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองกานส์

Column: From Paris เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่เมืองกานส์ (Cannes) เป็นงานใหญ่ที่ผู้คนในวงการภาพยนตร์จากทั่วโลกต้องมา ผู้สร้างจะส่งภาพยนตร์เข้าประกวด นักแสดงในภาพยนตร์ที่ได้เข้าประกวดจะมาแสดงตัวพร้อมกับผู้สร้าง เดินบนพรมแดง และแน่นอนนักแสดงหญิงจะแต่งตัวเต็มที่ โดยมียี่ห้อเสื้อดังให้หยิบยืมเครื่องแต่งกาย ไม่เว้นแม้แต่เครื่องเพชรจากห้างเพชรดัง เทศกาลเมืองกานส์มีห้างเพชรโชปารด์ (Chopard) เป็นพาร์ตเนอร์ ดาราที่โด่งดังได้เปรียบตรงที่ห้องเสื้อและห้างเพชรเสนอให้ถึงที่ เพราะจะได้เด่นและเป็นข่าว ฮาร์วีย์ ไวน์สไตน์เป็นทั้งผู้สร้างและผู้จัดจำหน่ายยิ่งใหญ่แค่ไหน ใครๆ ก็รู้ ทุกคนให้ความเกรงใจ ภาพยนตร์เรื่องไหนอยากดัง ถามหาบริการฮาร์วีย์ ไวน์สไตน์ นักแสดงวิ่งเข้าหาฮาร์วีย์ ไวน์สไตน์เพราะอยากได้รับบทในภาพยนตร์เรื่องนั้นนี้ นักแสดงสาวถึงกับยอมทอดกาย หรือมิฉะนั้นก็ถูกบีบบังคับให้สมยอม จนเมื่อมีผู้กล้าออกมาเปิดเผยว่าเคยถูกฮาร์วีย์ ไวน์สไตน์ลวนลาม ข่มขืน จากคนแรกกลายเป็นหลายๆ คนที่พากันออกมากล่าวหา กลายเป็นเรื่องอื้อฉาว จากฮาร์วีย์ ไวน์สไตน์ไปถึงผู้กำกับการแสดงหรือดาราภาพยนตร์ชาย เป็นยุคที่ผู้หญิงลุกขึ้นมาต่อสู้ เรียกร้องความยุติธรรม ฮาร์วีย์ ไวน์สไตน์โดนหลายคดี ความอื้อฉาวทำให้นักแสดงถอนตัว บริษัทสร้างภาพยนตร์และจัดจำหน่ายที่เขาก่อตั้งถึงกับล้มละลาย ดังนั้นในปี 2018 นี้ จึงไม่มีฮาร์วีย์ ไวน์สไตน์ในเทศกาลเมืองกานส์ พร้อมกับความเงียบเหงา เพราะปีนี้ฮอลลีวู้ดไม่มีภาพยนตร์เด่นๆ ภาพยนตร์ที่เข้าประกวดมีแต่ภาพยนตร์ยุโรปและประเทศอื่นๆ เป็นหลัก ภาพยนตร์ที่ได้รับเลือกให้เข้าประกวดไม่โดดเด่น ภาพยนตร์ฝรั่งเศสมีเข้าตาเพียงเรื่องเดียว

Read More

“แบรนด์เนมมือสอง” บูม พลิกสมรภูมิธุรกิจใหม่

การพลิกกลยุทธ์ของโรงรับจำนำยี่ห้อเก่าแก่กว่า 40 ปี “ปิ่นคู่” ทั้งการสร้างภาพลักษณ์ใหม่และดึงร้านแบรนด์เนมมือสองยักษ์ใหญ่ชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น Brand Off Tokyo เข้ามาเปิดร้าน Brand Off Tokyo by Money Cafe แฟล็กชิปสโตร์แห่งแรกในประเทศไทย ระดมสินค้ามากกว่า 300 ไอเท็ม ทั้งกระเป๋า นาฬิกา จิวเวลรี ที่พร้อมการันตีเรื่องคุณภาพและราคา ถือเป็นจุดเปลี่ยนจากธุรกิจโรงรับจำนำแบบเดิมสู่ Lifestyle Pawn Shop และเร่งสมรภูมิการแข่งขันธุรกิจแบรนด์เนมมือสองแนวใหม่รุนแรงมากขึ้น แน่นอนว่า หากพูดถึงแหล่งซื้อขายสินค้าแบรนด์เนมมือสองยอดฮิตของเหล่านักชอปแบบเดิมๆ ทุกคนต้องไปตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เนื้อที่ขนาดใหญ่กว่า 66 ไร่ และรวบรวมสินค้ามากมายมหาศาล จัดแบ่งเป็นโซนหลักๆ ตั้งแต่โซนรองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้า แต่มีข้อเสีย คือมีทั้งของแท้และของก๊อบผสมกันจนแยกไม่ออก ทำให้ต้องใช้ทักษะและความชำนาญในการคัดสินค้า หรือจะเป็นตลาดขายสินค้ามือสองที่เจ้าของนำมาขายเอง ซึ่งมีทั่วไปตามตลาดนัดทั้งกลางวันและกลางคืน ไม่ว่าจะเป็นตลาดนัดจตุจักร (JJ) ตลาดรถไฟ ตลาดนัดเลียบด่วน ตลาดหัวมุม ตลาดนกฮูก

Read More