Home > 2014 > ธันวาคม (Page 3)

คนนอก-มืออาชีพ-Nobody ชื่อ พงษ์รัตน์ เหลืองธำรงเจริญ

 ตลอด 80 ปี ที่บริษัทบุญรอดบริวเวอรี่คร่ำหวอดอยู่ในวงการธุรกิจเครื่องดื่มน้ำเมามาอย่างยาวนาน เป็นที่รู้กันว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนั้นเป็นเพราะการบริหารงานของคนในตระกูลภิรมย์ภักดี สืบเนื่องมาจนกระทั่งถึงทายาทรุ่นที่ 4  กระทั่งมีแนวนโยบายใหม่ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนอน-แอลกอฮอลล์ หลังจากสภาพของตลาดเครื่องแอลกอฮอล์ในประเทศซบเซาลง ผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมาให้ความสนใจกับสุขภาพตัวเองมากขึ้น จนกลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่สิงห์ไม่อาจปล่อยผ่านอย่างไม่สนใจได้ ซึ่งต้องยอมรับว่าไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ทุกตัวจะประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค กระนั้นถึงแม้ผลิตภัณฑ์บางตัวจะไปไม่รอดแต่ก็ยังอยู่ภายใต้การบริหารของสิงห์เอง อาจเป็นเพราะการเปลี่ยนผ่านเจนเนอเรชั่นของสิงห์มาสู่รุ่นที่ 4 ทำให้รูปแบบการบริหารงานในปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่คนในตระกูลภิรมย์ภักดีเช่นเดิม ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของวงการธุรกิจที่มักมีการดึงตัวผู้บริหารระดับมืออาชีพที่มีประสบการณ์เข้ามาบริหารงาน เพราะคาดหวังในประสบการณ์ที่ติดตัวมาน่าจะนำมาใช้ประโยชน์ที่หมายถึงผลกำไรที่จะตามมาต่อธุรกิจ  แต่ความเป็นมืออาชีพอาจทำให้ภาพลักษณ์ของตระกูลภิรมย์ภักดีถูกบดบังบนพื้นที่ของหน้าสื่อธุรกิจ ถ้าเช่นนั้นหากใครคนนั้นจะเป็นแค่ Nobody ที่จะทำให้ภาพลักษณ์ไม่โดดเด่นเกินหน้าเกินตาทายาทสิงห์ อาจเป็นเรื่องที่ดีกว่า ล่าสุดเมื่อตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท บุญรอดฟาร์ม จำกัด เป็นบุคคลที่ไม่ได้มีนามสกุล “ภิรมย์ภักดี” ต่อท้าย แต่ป็นผู้ที่เคยดำรงตำแหน่ง รองผู้ว่าการการตลาดในประเทศของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย อย่าง พงษ์รัตน์ เหลืองธำรงเจริญ ที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นหน้าใหม่ในวงการธุรกิจไทย คนนอกที่เพิ่งมาใหม่อย่างพงษ์รัตน์อาจนำประสบการณ์ด้านการตลาดที่เคยทำงานร่วมกับ ททท. มาใช้ซึ่งดูจะเอื้อประโยชน์ต่อบุญรอดฟาร์มเชียงราย หรือปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น สิงห์ ปาร์ค เชียงราย ที่สิงห์พัฒนาขึ้นเพื่อหวังให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางเกษตรเชิงนิเวศแห่งใหม่ อีกทั้งเป้าประสงค์ที่หวังจะต่อยอดธุรกิจในเชิงอุตสาหกรรมทางการเกษตร ภายใต้ผลิตภัณฑ์แบรนด์ “บุญรอดฟาร์ม”  แต่ความท้าทายที่พงษ์รัตน์ต้องเจอคงไม่ใช่เพียงแค่การบริหารจัดการพื้นที่กว่า 8,600 ไร่ ของสิงห์ ปาร์ค ที่มีแผนจะพัฒนาโครงการพูล วิลล่า จำนวน 20 หลัง

Read More

Fondation Maeght

 ฝรั่งเศสมีพ่อค้างานศิลป์ดังๆ หลายคน แต่ไม่มีคนไหนที่จะหาญกล้าสร้าง “พิพิธภัณฑ์” ส่วนตัวแสดงผลงานอาร์ทิสต์ทั้งมวลที่ตนสะสมไว้ เอเม มากต์ (Aimé Maeght) เป็นเพียงหนึ่งเดียว เอเม มากต์ เกิดทางตอนเหนือของฝรั่งเศส แถบเมืองลิล (Lille) พ่อไปสงครามโลกครั้งที่หนึ่งแล้วหายสาบสูญ แม่พาลูกๆ หนีภัยเยอรมันไปทางใต้ใกล้เมืองนีมส์ (Nîmes) หลังจากเรียนด้านการพิมพ์ เอเม มากต์ไปทำงานในโรงพิมพ์แห่งหนึ่งที่เมืองกานส์ (Cannes) เป็นช่างทำแบบพิมพ์ เขาหางานได้ง่ายเพราะเป็นลูกของผู้หายสาบสูญหรือเสียชีวิตในสงคราม  และที่นี่เองเขาได้พบกับสาวน้อยวัย 17 ปี มาร์เกอริต เดอเวย์ (Marguerite Devaye) ลูกสาวพ่อค้าที่มั่งคั่ง ทั้งสองบังเอิญไปฟังคอนเสิร์ตนักร้องประสานเสียงเดียวกัน สาวเจ้านึกว่าหนุ่มเดินตาม จึงหันมาตบหน้าเสียนี่ แต่แล้ว ในที่สุดก็แต่งงานในปี 1928  ต่อมาในปี 1932เขาตั้งโรงพิมพ์ของตนเองชื่อ ARTE แถวหาด La Croisette พร้อมกับขายวิทยุด้วย  ในปี 1936 เอเมและมาเกอริต มากต์ได้พบกับจิตรกรปิแอร์ บอนนารด์

Read More

“มารุเซ็น” ความพยายามครั้งใหม่ของ “สิงห์”

 หากจะย้อนเวลาถอยหลังไปในช่วง 10 ปีให้หลัง ตลาดเครื่องดื่มนอน-แอลกอฮอล์ของไทยที่มีสีสันมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้นตลาดชาเขียวพร้อมดื่มที่เจ้าตลาดดังอย่างโออิชิ และอิชิตัน จะงัดกลยุทธ์ทางการตลาดมาสู้กันอย่างสนุก ในช่วงเวลาหนึ่งสิงห์เองก็เคยส่งชาพร้อมดื่มหวังแบ่งพื้นที่ทางตลาดของเครื่องดื่มชา แต่ดูการมาในครั้งนั้นที่มาพร้อมกับประสบการณ์อันน้อยนิดเกินไปเมื่อชาเขียวพร้อมดื่มของสิงห์ภายใต้แบรนด์ “โมชิ” ไม่อาจแย่งส่วนแบ่งการตลาดได้แม้แต่น้อย ทำให้สิงห์ต้องยกเลิกการผลิตชาเขียวไปในเวลาอันรวดเร็ว ดูเหมือนว่าในช่วงเวลานั้นสิงห์อาจจะยังไม่พร้อมสำหรับตลาดนอน-แอลกอฮอล์ แต่สิงห์คงยังไม่เข็ดเมื่อครั้งนี้ยักษ์ใหญ่ในตลาดเครื่องดื่มน้ำเมากลับมาอีกครั้งพร้อมด้วยพันธมิตรจากแดนปลาดิบที่เรียกตัวเองว่าเป็น Expert ในด้านชาเขียวจากจังหวัดชิสึโอกะ ประเทศญี่ปุ่น เข้ามาร่วมทุนพร้อมทั้งสร้างฐานการผลิตบนพื้นที่ของไร่สิงห์ ปาร์ค เชียงราย บริษัท มารุเซ็น ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด เกิดจากการร่วมทุนระหว่างสิงห์ คอร์เปอเรชั่น กับบริษัท Maruzen Tea Japan (มารุเซ็น ที เจแปน) เมื่อหกเดือนก่อน ด้วยทุนจดทะเบียน 60 ล้านบาท โดยสิงห์ถือหุ้น 51% และ Maruzen Tea Japan ถือหุ้น 49% เป็นครั้งแรกในรอบ 70 ปี นับตั้งแต่การก่อตั้งบริษัท ที่ Maruzen Tea

Read More

การรุกคืบของทุนญี่ปุ่นในสยาม ทางรอดหรือทางเลือก

 การลดจำนวนลงของประชากรเกิดใหม่ทำให้ประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบันกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เมื่อกำลังการซื้อส่วนใหญ่ผูกติดอยู่กับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่มคนในวัยทำงาน ที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในระบบเศรษฐกิจของดินแดนอาทิตย์อุทัย ภาวะการชะลอตัวของกำลังซื้อในญี่ปุ่นส่งผลให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่เติบโตเท่าที่ควร โดยที่ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นใช้ระบบเศรษฐกิจแบบ Abenomics ภายใต้การนำของ Shinso Abe อดีตนายกรัฐมนตรีที่เพิ่งประกาศยุบสภาไปเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยโตเกียวได้ประกาศขึ้นภาษีการค้าจาก 5 เปอร์เซ็นต์เป็น 8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ประชาชนชะลอการจับจ่าย ผลพวงจาก Abenomics นับเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่รัฐบาลใหม่ของญี่ปุ่นที่มาจากการเลือกตั้งวันที่ 14 ธันวาคม 2557 จะต้องเร่งหาทางออกในเรื่องนี้ให้กับบรรดานักธุรกิจและนักลงทุนภายในประเทศ อีกทั้งยังต้องเรียกความน่าเชื่อถือให้กับประเทศเมื่อ Moody’s สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ได้ปรับลดความน่าเชื่อถือของประเทศญี่ปุ่นลงจาก ‘Aa3’ เหลือ ‘A1’ (เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2557) นับเป็นการปรับลดหนึ่งขั้น หลังจากภาวะเศรษฐกิจของญี่ปุ่นเริ่มเข้าสู่สภาวะถดถอยในช่วงไตรมาส 3  การขาดดุลระยะกลางอย่างต่อเนื่องของประเทศญี่ปุ่น และการหดตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ 0.4% ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน (เมษายน – มิถุนายน) ที่ 1.9% ทั้งที่ในไตรมาสแรกของปี ตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ที่ 1.6%

Read More

Dien Bien Phu รอยประทับแห่งสงคราม

 สมรภูมิรบเดียนเบียนฟู การเผชิญหน้าครั้งสำคัญในสงครามอินโดจีน ระหว่างกองทัพทหารฝรั่งเศสในฐานะเจ้าอาณานิคมกับกองทัพเวียดมินห์ของขบวนการกู้ชาติเวียดนาม ในฐานะผู้ดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากการเป็นประเทศอาณานิคม สงครามที่ชาวเวียดนามภาคภูมิใจว่านำมาซึ่งเอกราชของชาติอย่างแท้จริง แต่เป็นสงครามที่ฝรั่งเศสเองไม่อยากจะจดจำ กาลเวลาผ่านมาแล้วหลายทศวรรษ วันนี้เราจะไปสัมผัสร่องรอยที่ยังหลงเหลืออยู่ของการสู้รบในครั้งนั้น เดียนเบียนฟู (Dien Bien Phu) คือเมืองหนึ่งในจังหวัดเดี่ยนเบียนตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเวียดนาม ห่างจากกรุงฮานอยประมาณ 200 กิโลเมตร ทิศตะวันตกอยู่ใกล้กับชายแดนแขวงพงสาลีของประเทศลาว  เดียนเบียนฟูมีชื่อเสียงและเป็นที่จดจำเนื่องจากเป็นสมรภูมิรบอันโด่งดังระหว่างฝรั่งเศสกับกองกำลังเวียดมินห์ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม–พฤษภาคม ค.ศ.1954 ลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ของฝรั่งเศสจนต้องถอนกำลังออกจากเวียดนามเหนือ และถือเป็นการสิ้นสุดลงของสงครามอินโดจีนครั้งแรก เราเดินทางมายังเมืองเดียนเบียนฟูผ่านทางประเทศลาว ลัดเลาะมาเรื่อยๆ จากเวียงจันทน์ เข้าโพนสะหวัน เชียงขวาง ต่อไปยังซำเหนือ เวียงไซย เมืองงอย ล่องเรือต่อไปยังเมืองขวา ก่อนที่จะนั่งรถข้ามชายแดนต่อมายังเมืองเดียนเบียนฟู เป็นเส้นทางที่ได้สัมผัสวิถีชีวิตและธรรมชาติที่ยังงดงามของลาว  บางช่วงบางตอนยังเป็นเส้นทางที่เกี่ยวโยงกับสงครามอินโดจีน อย่างแขวงเชียงขวางที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของลาวซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ มีชายแดนติดกับเวียดนาม เป็นเส้นทางในการลำเลียงกองกำลังและอาวุธยุทโธปกรณ์จากเวียดนามเหนือมาสู่ขบวนการปะเทดลาว รวมถึง “ถ้ำท่านผู้นำ” ที่เมืองเวียงไซย อดีตศูนย์บัญชาการใหญ่ของกองทัพปลดปล่อยประเทศลาว ที่ในสมัยสงครามอินโดจีน ผู้นำขบวนการปลดปล่อยประเทศลาว ได้ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นฐานที่มั่นและศูนย์บัญชาการใหญ่เพื่อต่อต้านการรุกรานจากต่างชาติ ที่ซึ่งสงครามยังคงทิ้งร่องรอยของมันไว้ให้เราเห็น และครั้งนี้เราจะไปที่เดียนเบียนฟู อีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญของภาพสงครามอินโดจีน จากเมืองขวาของลาวมีรถบัสนำเราไปสู่เดียนเบียนฟูของเวียดนามผ่านทางด่าน Tay Trung ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง เพราะเป็นทางขึ้นเขาถนนแคบ และอาจต้องเจอสภาพรถที่ผู้โดยสารและสิ่งของแน่นเอี๊ยดเต็มทุกพื้นที่ของรถ เพราะเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่ทั้งคนลาว คนเวียดนาม รวมถึงนักท่องเที่ยวนิยมใช้ในการเดินทางไปมาระหว่างลาวและเวียดนาม รถบัสขนาดเล็กที่อัดแน่นไปด้วยคนและข้าวของพาเราลัดเลาะไปตามความสูงของเทือกเขาเป็นเวลาหลายชั่วโมง

Read More

นอนไม่หลับ …ตื่นแล้วตาค้าง …ทำไงดี?

 คุณรู้สึกเบื่อกับอาการนอนไม่หลับบ่อยๆ ใช่ไหม สาเหตุอาจเป็นเพราะคุณไม่ได้เตรียมตัวเข้านอนอย่างดีพอ หรือบ่อยครั้งที่คุณพบว่าตัวเองตื่นขึ้นกลางดึกแล้วตาค้างนอนไม่หลับอีกเลยใช่ไหม ไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์ใดก็ตาม ขอบอกว่าคุณไม่ได้เผชิญปัญหาเหล่านี้เพียงลำพัง ชาวออสเตรเลียเองก็มีปัญหาร่วมอย่างเดียวกับคุณ แต่ไม่ว่าคุณจะตาค้างนอนไม่หลับแม้เลยเวลาเที่ยงคืนไปแล้ว หรือตื่นขึ้นกลางดึกตอนตีสาม ข้อแนะนำต่อไปนี้จะช่วยให้คุณนอนพักผ่อนได้ตลอดทั้งคืน เที่ยงคืนคุณยังตาสว่างไม่ง่วงเลยแม้แต่น้อย สาเหตุส่วนใหญ่มักเป็นเพราะก่อนถึงเวลาเข้านอน คุณไม่ได้ทำให้สมองผ่อนคลายเต็มที่ จึงทำให้คุณต้องทนทรมานนอนลืมตาโพลงอยู่บนเตียงนานกว่าปกติ Dr. Neil Stanley ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนแนะนำว่า อย่ากังวลเวลาที่นอนไม่หลับ เพราะความกังวลยิ่งส่งผลทางจิตใจมากขึ้น ให้ลองฝึกจิตดังนี้ ให้เพ่งกระแสจิตไปยังส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย เช่น แขนข้างซ้าย และคิดว่าแขนข้างนี้รู้สึกอย่างไร อุ่นกว่าหรือเย็นกว่าแขนข้างขวา ผ้าห่มที่คลุมทับแขนซ้ายอยู่นี้หนักไหม เมื่อคิดแล้วไม่ต้องลงมือทำอะไรอันเป็นผลจากความคิดดังกล่าว เพียงปล่อยให้ความคิดนั้นล่องลอยไปมา การบังคับจิตใจด้วยวิธีนี้ทำให้จิตใจสงบลง ช่วยให้คุณเคลิ้มหลับไปโดยไม่รู้ตัว ตีสอง – ตีสามคุณตกใจตื่นขึ้นกลางดึก ซึ่ง Dr. Stanley บอกว่า เป็นภาวะปกติ ปัญหาคือ เมื่อตื่นแล้วคุณไม่สามารถหลับต่อไปได้อีก “พยายามกำจัดปัจจัยที่เป็นสาเหตุให้คุณตื่นกลางดึก” ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนชี้แนะว่า อาจเป็นเพราะคุณดื่มของเหลวมากเกินไปในช่วงค่ำ ทำให้ต้องตื่นเข้าห้องน้ำกลางดึก หรือคุณอาจเป็นตะคริวขณะนอนหลับ ซึ่งยารักษาอาการดังกล่าวช่วยได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณพบว่าทันทีที่ตื่นขึ้นกลางดึกแล้ว จิตใจคุณเริ่มฟุ้งซ่าน ให้ใช้วิธีฝึกจิตที่กล่าวถึงในหัวข้อก่อนหน้านี้ เพื่อให้คุณกลับต่อไปได้จนถึงรุ่งเช้า และไม่เกิดอาการอ่อนเพลีย ตีห้าคุณไม่จำเป็นต้องตื่นเช้ากว่าเวลาตื่นตามปกติถึงสองชั่วโมง แต่คุณกลับตาใสแจ๋วนอนหลับต่อไปไม่ได้ในช่วงตีห้า Dr. Stanley บอกว่า อาจเป็นไปได้ว่าคุณนอนอิ่มแล้วจึงตื่นเวลานี้ ซึ่งถือเป็นอาการปกติ แต่ถ้าไม่ใช่

Read More

ห้างทอง เลี่ยงเซ่งเฮง รีแบรนดิ้งสู่แนวรบใหม่!!

 “รูปพรรณ บริสุทธิ์ เลอค่า แท้เที่ยง ต้องจําชื่อเลี่ยง ชื่อนี้ที่ไม่อาจเลี่ยง เคียงข้างยืนหยัดด้วยฝีไม้ลายมืออันเจนจัด แบบและดีไซน์สุดตีน แม่งแหร่มสาดดดด ถ้าเรื่องทองคําอย่าชักช้าประเดี๋ยวหมดเกลี้ยง ต้องจําชื่อเลี่ยงเท่านั้น ชื่อนี้เขาดีเยี่ยม เป็นทองต่างประเทศที่เจิดจรัสบนแหลมทอง งดงามกว่าทองที่ใดทั้งสร้อย กําไล ทั้งแหวนทอง แรปไปจะสองไพเบี้ยถ้าเสี่ยอยากซื้อตําลึงทอง ต้องเลี่ยง เซ่ง เฮง ชื่อนี้ถ้าเรื่องทอง(Chorus) มีเงินเขานับเป็นน้อง จะไปซื้อทองต้องเลี่ยง เซ่ง เฮง ยืนยงมา 60 ปี บริการดี๊ดีต้องเลี่ยง เซง เฮง ซื้อทองต้องเลี่ยง เซ่ง เฮง ซื้อทองต้องเลี่ยง เซ่ง เฮง” !!! เนื้อร้องในเอ็มวี ที่ร้องและแต่งโดย กอล์ฟ ฟัคกลิ้งฮีโร่ ในทำนองแรฟ ซึ่งมีเป้าหมายเพิ่มความเป็นวัยรุ่นเข้าไปในแบรนด์แล้วยังต้องการให้คนจำ และเป็นการพลิกโฉมวงการทองคํา เพื่อนําร้านทอง บุกตลาดคนรุ่นใหม่ ภายใต้การบริหารงานของ ชิษณุ พสุธิกูล ทายาทรุ่นที่สาม

Read More