Home > 2012 > สิงหาคม (Page 2)

คิด หลังน้ำท่วม

50 ปี                      น้ำท่วมปี 2554 เป็นอุทกภัยที่สร้างความเสียหายมากที่สุดของประเทศไทยในรอบ 50 ปี45,000 ล้านดอลลาร์ ตัวเลขความเสียหายจากน้ำท่วมปี 2554 ในไทยที่ประเมินโดยธนาคารโลก7 นิคมอุตสาหกรรม   เอาไม่อยู่ ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมสหรัตนนคร โรจนะ ไฮเทค บางปะอิน แฟคตอรีแลนด์ นวนคร และบางกระดี9,859 โรงงาน        ถูกน้ำท่วม660,000 คน          ต้องหยุดงาน30%                    

Read More

สรุปผลกระทบจากน้ำท่วมของฮะจิบังราเมน

 สรุปผลกระทบจากน้ำท่วมของฮะจิบังราเมน๏ 14 ตุลาคม 2554 ครัวกลางหยุดการผลิตสินค้า๏ 28 ตุลาคม 2554 ปิดร้านฮะจิบังราเมน ทั้ง 90 สาขา (อยู่ระหว่างรีโนเวท 1 สาขา)๏ 24 ธันวาคม 2554 เริ่มเข้าระบายน้ำที่ขังในโรงงาน ซ่อมแซมระบบประปา ไฟฟ้า เช็กความปลอดภัยในการผลิต ตรวจสอบและซ่อมแซมความเสียหายในโรงงาน๏ 11 มกราคม 2555 เริ่มการผลิตบางส่วนที่ครัวกลาง๏ 14 มกราคม 2555 เริ่มเปิด 7 สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล๏ ปลายเดือนมกราคม 2555 กลับมาเปิดเพิ่มอีก 7 สาขา เป็น 14 สาขา๏ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2555 เปิดเพิ่มได้อีก 6 สาขา เป็น 20 สาขา๏

Read More

ฮะจิบัง ราเมน แค่ 1 กระทบ 100

 หลังน้ำท่วมใหญ่ในเดือนตุลาคม 2554 ครัวกลางของฮะจิบังราเมนที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกับโรงงานเกือบทั้งหมดในนิคม ร้านฮะจิบังราเมนใช้เวลาสั้นๆ เพียง 2 สัปดาห์ประกาศปิดครบ 91 สาขาที่มีทั่วประเทศ แต่กลับใช้เวลาถึงครึ่งปี กว่าจะกู้คืนโรงงานเพื่อให้กลับมาผลิตสินค้าส่งป้อนให้ทุกสาขาเปิดบริการได้อีกครั้ง ป้ายประกาศที่ติดไว้อย่างเป็นทางการที่หน้าร้าน มีข้อความ ที่พิมพ์ติดไว้เหมือนกันว่า“ขอขอบคุณผู้มีอุปการคุณทุกท่านที่มาอุดหนุนร้านฮะจิบัง ราเมน เนื่องจากมีเหตุน้ำท่วมในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ทำให้ครัวกลางไม่สามารถผลิตวัตถุดิบให้กับทางร้านได้ ดังนั้นทางบริษัทฯ จึงขอปิดบริการชั่วคราว จนกว่าเหตุการณ์น้ำท่วมลดลงเป็นปกติ ทางร้านจะรีบเปิดให้บริการโดยทันที จึงเรียนมาเพื่อทราบ และขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย”สาเหตุที่ร้านฮะจิบังต้องปิดบริการชั่วคราวทั้งหมดก็เพราะ โรงงาน-ครัวกลางของไทยฮะจิบังที่นวนคร ซึ่งเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2548 ด้วยงบการลงทุน 180 ล้านบาท เฉพาะมูลค่าก่อสร้างตัวอาคารประมาณ 154 ล้านบาท สร้างขึ้นเพื่อใช้รองรับการผลิตวัตถุดิบป้อนร้านฮะจิบังราเมนได้เต็มที่ 100 สาขา ดังนั้นกรณีของไทยฮะจิบัง ต่อให้ป้องกันโรงงานจากน้ำท่วม ไว้ได้เหมือนบางโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร แต่การที่ซัปพลายเออร์ไม่สามารถส่งวัตถุดิบหลักที่จะทำบะหมี่เข้าโรงงานได้เลย ไม่ว่าจะเป็นแป้งสาลี ไข่ เกลือ และน้ำสะอาดเพื่อใช้ในกระบวนการผลิต โอกาสที่จะเปิดร้านได้จึงเป็นศูนย์ แม้ว่าเกือบ 100 สาขาที่มีอยู่อาจจะไม่ถูกน้ำท่วมเลยก็ตามเมื่อน้ำท่วมและกรณีเกิดเหตุระเบิดในเมืองหาดใหญ่ ไทยฮะจิบังก็ได้รับผลกระทบเพียงแค่ยอดขายจากสาขาในพื้นที่ที่ตกลง เพียงแค่

Read More

“เทคโนโลยีกำลังนำพา ‘ผู้จัดการ’ ให้พุ่งทะยานไป”

 แม้จะมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการเว็บไซต์เอเอสทีวี ผู้จัดการออนไลน์ (www.manager.co.th) แต่บทบาทความรับผิดชอบที่กว้างขวางกว่านั้นของวริษฐ์ ลิ้มทองกุล อยู่ที่การเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบการพัฒนา New Media ส่วนใหญ่ของเครือผู้จัดการ ซึ่งทัศนะของเขาอาจช่วยขยายภาพของ “ผู้จัดการ” ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น“พัฒนาการของเทคโนโลยีสมัยใหม่ มีส่วนอย่างมากต่อการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ของสื่อ เพราะนอกจากจะต้องแข่งขันกันเองแล้ว ยังต้องปรับเปลี่ยนให้ทันกับไลฟ์สไตล์ใหม่ของผู้คนในสังคมด้วย”ประเด็นที่ท้าทายความสามารถของการบริหารสื่อนิวมีเดียก็คือ ภายใต้พฤติกรรมการบริโภคข่าวสารและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป รูปแบบทางธุรกิจ (business model) ก็ต้องปรับเปลี่ยนไปด้วย เพราะแม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาสำนักพิมพ์และสื่อในระบบเก่าจะสามารถดำเนินธุรกิจด้วยดีมาอย่างยาวนานแต่หากไม่สามารถกำหนดหนทางว่าจะเดินต่อไปอย่างไร ก็จะกลายเป็นปัญหาได้อย่างง่ายดายการเปลี่ยนแปลงของสื่อในโลกดิจิตอลที่เกิดขึ้นจึงเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่ต้องอาศัยทั้งประสบการณ์ และความเชื่อมั่นในการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่บริบทใหม่ความเป็นไปของ “ผู้จัดการ” นับจากอดีตจนถึงปัจจุบันในด้านหนึ่งเกี่ยวเนื่องและเป็นผลพวงที่เกิดมีขึ้นจากแนวความคิดและวิสัยทัศน์ของ สนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งเครือผู้จัดการ ที่วางรากฐานสำหรับการพัฒนาไว้ตั้งแต่ต้นและดำเนินการให้ปรากฏผลเป็นรูปธรรมอย่างไม่ต้องสงสัย“ปรากฏการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับเครือผู้จัดการทั้งระบบ ในด้านหนึ่งอาจเปรียบเทียบได้กับภาษิตที่ว่า ‘หมูบินได้’ ซึ่งก็คงไม่ผิดนัก” วริษฐ์เทียบเคียงก่อนขยายความว่า ไม่มีใครคาดคิดหรือตระหนักมาก่อนว่าหมูจะบินได้ แต่เมื่อลมพายุขนาดใหญ่พัดมา และหมูสามารถเข้าไปอยู่ในศูนย์กลาง ของพายุและใช้แรงดันของพายุพยุงตัวให้ลอยขึ้นมาได้ นี่คือปรากฏการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับ “ผู้จัดการ”การวางรากฐานและระบบโครงสร้างภายในมานานกว่า 20 ปีของผู้จัดการ และประสบการณ์จากการบุกเบิกสื่อออนไลน์มานานกว่า 10 ปี ทำให้ “ผู้จัดการ” เป็นรายแรกๆ ที่ก้าวสู่ระบบข่าวดิจิตอล นอกจากจะทำให้ “ผู้จัด การ” ได้เรียนรู้และเผชิญกับปัญหายังค้นพบวิธีในการแก้ปัญหาด้วย“กระแสของโลกดิจิตอลก็เหมือนลมพายุที่กำลังพัดโถมเข้ามาสำหรับคนอื่นๆ สิ่งเหล่านี้อาจจะสร้างความกังวลใจ แต่สำหรับ “ผู้จัดการ” เราประเมินสิ่งเหล่านี้ในอีกมิติหนึ่ง โดยเราเห็นว่านี่คือโอกาสที่ไม่เคยเกิดมีขึ้นมาก่อน แต่ทั้งนี้เป็นเพราะเราได้เตรียมความพร้อมและทำความเข้าใจกับลมพายุนี้มาดีพอสมควรแล้ว”การปรากฏตัวขึ้นของ ASTV Manager for iPhone ที่เป็นแอปพลิเคชั่นอ่านข่าวสำหรับผู้ใช้ไอโฟนเวอร์ชั่นอัปเดต ใหม่ล่าสุดเมื่อไม่นานมานี้ อาจเป็นหนึ่งในประจักษ์พยานที่สนับสนุนถ้อยแถลงของวริษฐ์ได้อย่างชัดเจนในเรื่องนี้แม้ว่าภายใต้บริบทที่เครื่องมือและอุปกรณ์สื่อสารหลากหลายได้พัฒนาขึ้นตามลำดับขั้นของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี จนทำให้สื่อหลายสำนักเริ่มตระหนักและรับรู้ถึงศักยภาพที่แท้จริงของโลกดิจิตอล แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ประกอบการทุกรายจะประสบผลสำเร็จในการก้าวเข้าสู่โลกดิจิตอลแต่อย่างใด“อุปกรณ์ใหม่ๆ ถูกพัฒนาขึ้นเกือบจะเรียกว่าทุกวัน ซึ่งหมายความว่าเราต้องทำความเข้าใจและมีต้นทุนการผลิต ที่ต้องพร้อมสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้

Read More

Towards Mega Portal Digital Contents

 การเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นที่ “ผู้จัดการ” ดูเหมือน ว่าได้กลายเป็น talk of the town ที่ดำเนินผ่านการคาดการณ์ และขยายผลไปอย่างรวดเร็ว ประกอบส่วนด้วยข้อเท็จจริงมาก บ้างน้อยบ้างไปในทิศทางต่างๆ ตามแต่ความสามารถในการรับรู้และเป้าประสงค์ของผู้สื่อสารหากแต่สำหรับในทัศนะของผู้นำองค์กรที่ชื่อ “จิตตนาถ ลิ้มทองกุล” การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ย่อมไม่ใช่เหตุบังเอิญหรือดำเนินไปอย่างสุ่มเสี่ยงปราศจากทิศทาง เพราะบริบทใหม่ที่ “ผู้จัดการ” กำลังมุ่งมั่นให้ก้าวหน้าไปนี้เป็นผลลัพธ์ของตรรกวิธีและแนวความคิดที่ผ่านกระบวนการสังเคราะห์และรวบรวมข้อมูลมาแล้วอย่างรอบด้าน“สำหรับ ‘ผู้จัดการ’ ทุกๆ จังหวะก้าวดำเนินไปภายใต้ แนวความคิดที่ชัดเจน ควบคู่ไปพร้อมกับการประเมินจุดเด่นจุดด้อยเพื่อหาทางเลือกที่ดีและเหมาะสมที่สุด แต่ที่สำคัญมากก็คือการบริหารความเสี่ยงที่ต้องชัดเจนว่าทางเลือกของ ‘ผู้จัดการ’ มีความเสี่ยงเป็นศูนย์” จิตตนาถ ลิ้มทองกุล อธิบาย ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นด้วยท่วงทำนองที่แจ่มชัดในเป้าหมายจังหวะก้าวของ “ผู้จัดการ” เกิดขึ้นภายใต้ยุทธศาสตร์ที่มุ่งแสวงหาโอกาสจากพัฒนาการของเทคโนโลยีและวิถีชีวิตของผู้คนในการรับรู้และบริโภคข่าวสารที่นอกจากจะต้องการ ความฉับไวในการนำเสนอแล้ว ยังต้องมีความหลากหลายของ เนื้อหาที่พร้อมจะเติมเต็มความใคร่รู้ ทั้งในมิติที่เป็นไปเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในเชิงธุรกิจ หรือแม้กระทั่งในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมสันทนาการก็ตามข้อเท็จจริงที่น่าสนใจมากประการหนึ่งก็คือ ภายใต้การเติบโตและพัฒนาขึ้นของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ได้ส่งให้จำนวนผู้อ่านข่าวสารผ่านช่องทางของเว็บไซต์หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องและหลากหลายมีเพิ่มมากขึ้น จนกล่าวได้ว่าล้ำหน้าแซงจำนวนยอดพิมพ์ของสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีอยู่ในปัจจุบันไปนานแล้วการปรับเปลี่ยนในเชิงพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นประเด็นที่ “ผู้จัดการ” ให้ความสนใจติดตามและศึกษาผ่านกระบวนการที่เป็นวิทยาศาสตร์และมีฐานข้อมูลในเชิงสถิติชี้วัดอย่างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของเว็บไซต์ www.manager.co.th ที่มีผู้เข้าชมในแต่ละวันเฉลี่ยมากถึงกว่า 2 ล้านคน ซึ่งเป็นเครื่องบ่งชี้ที่สะท้อนพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างชัดเจนและย่อมส่งแรงกระเพื่อมเป็นผลกระทบมหาศาลต่อวงการสื่ออย่างไม่อาจเลี่ยงปรากฏการณ์ของพัฒนาการด้านเทคโนโลยีในปัจจุบัน อาจเย้ายวนให้ผู้ประกอบการสื่อจำนวนมากประสงค์ที่จะกระโจนเข้ามาร่วมแบ่งสรรและขอมีส่วนแบ่งจากโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากพัฒนาการเหล่านี้หากแต่ในความเป็นจริง “โอกาส” ที่วางอยู่เบื้องหน้าอาจแปลงสภาพกลายเป็นเพียง “หลุมพราง” เพราะ “ความเข้าใจและความพร้อม” ต่างหากที่จะเป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จในโลกของข้อมูลข่าวสารที่ไร้พรมแดนนี้“พัฒนาการของเทคโนโลยีที่ปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าเราในขณะนี้ เป็นสิ่งที่ ‘ผู้จัดการ’ ให้ความสำคัญและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับสิ่งเหล่านี้มาโดยตลอด ควบคู่กับการให้ความสำคัญกับการพัฒนาปรับปรุงเนื้อหาสาระ (contents) ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของทั้งผู้อ่านและพันธมิตรธุรกิจ”ประเด็นที่สำคัญมากประการหนึ่งที่หนุนนำให้ “ผู้จัดการ” ประกาศหมุดหมายครั้งใหม่ว่าด้วยการตั้งเข็มมุ่งสู่การเป็น Mega Portal Digital Contents อยู่ที่ความเชื่อและตระหนักอยู่เสมอว่า จุดแตกต่างระหว่าง “ผู้จัดการ” กับสื่อสารมวลชนของไทยรายอื่นๆ นอกเหนือจากความหลากหลายก็คือ ความเข้มข้นและน่าเชื่อถือของเนื้อหาสาระ (contents) ที่ “ผู้จัดการ” นำเสนอรากฐานของแนวความคิดว่าด้วย contents นี้เองที่เป็นประหนึ่ง “ปัจจัยพื้นฐานของโอกาส” ที่ทำให้ “ผู้จัดการ” สามารถเติมเต็มและเติบโตไปพร้อมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ได้อย่างลงตัว เพราะภายใต้การบริหารธุรกิจในเครือ “ผู้จัดการ” ซึ่งประกอบส่วนด้วยสื่อหลากหลายช่องทางทั้งสิ่งพิมพ์ ออนไลน์ ทีวี วิทยุ รวมถึง application ทำให้ “ผู้จัดการ” สามารถบูรณาการเนื้อหาผ่านสื่อได้ อย่างมีประสิทธิภาพศักยภาพที่เกิดขึ้นจากความแข็งแกร่งของการเป็นเว็บไซต์ข่าวอันดับหนึ่งที่มีคนอ่านมากที่สุดในเมืองไทยรวมถึงโครงข่ายของสื่อที่ครบถ้วนถือเป็นจุดแข็งของ “ผู้จัดการ” ในการต่อยอดธุรกิจภายใต้บริบทใหม่นี้ เพราะเมื่อผนวกเข้ากับ contents ที่มีคุณค่าของพันธมิตรทางธุรกิจ

Read More

ข่มขืนหรือสมยอม

 ในปัจจุบันการข่มขืนถือเป็นอาชญากรรมที่ร้ายแรงและเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ในคดีความที่เกี่ยวกับการข่มขืนโดยส่วนใหญ่แล้วผู้ชายจะเป็นผู้กระทำและผู้หญิงเป็นผู้ถูกกระทำ แต่ทุกวันนี้โลกค่อนข้างเปลี่ยนไป แม้กระทั่งผู้ชายก็โดนข่มขืนได้เช่นกัน ซึ่งในบทความนี้จะขอกล่าวถึงกรณีที่ผู้หญิงเป็นผู้ถูกกระทำเท่านั้นจากเหตุการณ์ข่มขืนที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากทั่วโลก เราจะเห็นได้ว่าผู้หญิงมักจะตกเป็นเหยื่อความรุนแรงเสมอและความที่เป็นเพศหญิงหรือเพศแม่นั้นทำให้สังคมและมุมมองของผู้คนส่วนใหญ่มักจะเห็นใจผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย อาจด่วนสรุปจากเรื่องราวที่ได้ยินได้ฟังว่าผู้ฝ่ายคนนี้เป็นฝ่ายผิดและเป็นผู้ข่มขืน หญิงสาว ผู้ที่ได้ยินได้ฟังมาจึงให้ความเห็นอกเห็นใจ กับผู้หญิงที่ตกเป็นผู้เสียหายซะมากกว่านี่ยังไม่รวมไปถึงนักสิทธิสตรีทั้งหลายที่จะพากันออกมาเรียกร้องให้ปกป้องสิทธิผู้หญิงไม่ว่าจะเป็นการแก้กฎหมายให้มีการลงโทษผู้กระทำผิดให้รุนแรงมากยิ่งขึ้น หรือวิธีการเยียวยาจิตใจของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง ในบางครั้งยังประณาม ผู้ชายที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ทั้งที่ในบางครั้งตำรวจ ยังไม่ได้ทำการสืบสวนเกี่ยวกับคดีนี้เลยด้วยซ้ำในทางตรงกันข้ามผู้ชายที่อาจจะเป็นคนข่มขืนจริงหรือเป็นเพียงบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนข่มขืนมักจะตกเป็นจำเลยของสังคมไปแล้วว่าเป็นผู้กระทำผิดจริงแม้ว่าในภายหลังพวกเขาเหล่านี้อาจจะไม่ได้ทำผิดเลยก็ตามหลายๆ ครั้งที่มีคดีเกี่ยวกับความรุนแรงทาง เพศเกิดขึ้น ผู้หญิงมักจะให้การกับตำรวจว่าพวกเธอถูกข่มขืนมา ในขณะที่ผู้ชายก็จะให้การยอมรับว่าพวกเขามีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงเหล่านี้จริง เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่ได้ทำการข่มขืนพวกเธอและผู้หญิงเหล่านี้ต่างหากที่ยินยอมที่จะมีเพศสัมพันธ์ด้วยเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นและได้ยินอยู่บ่อยครั้ง แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าผู้หญิงที่มาแจ้งความว่าตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงทางเพศเหล่านี้ถูกข่มขืนจริงๆ หรือว่าพวกเธอเหล่านี้สมยอมในการมีเพศสัมพันธ์กันอย่างแรกที่ต้องเข้าใจให้ตรงกันคือ ความหมายของคำว่าการข่มขืนตามกฎหมายของประเทศ สหรัฐอเมริการะบุว่า การข่มขืนหมายถึงการถูกบังคับ ให้มีเพศสัมพันธ์ด้วยโดยใช้ส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายหรือใช้อุปกรณ์หรือวัตถุใดๆ สอดใส่เข้าไปทางช่องคลอด รูทวาร หรือทางปาก โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ทำการข่มขืนมักจะไม่มีอาวุธ แต่จะใช้พละกำลังที่มากกว่าในการบังคับหรือทำร้ายร่างกายในด้านกฎหมายนอกจากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะใช้พละกำลังบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ด้วยแล้วนั้น ศาลยังคงมีรายละเอียดเพิ่มเติมที่จะระบุว่า การกระทำใดที่ถือว่าเข้าข่ายการข่มขืน ที่อเมริกาศาลจะรับพิจารณาทันทีว่าเป็นกรณีการข่มขืนแน่นอนถ้าหากว่า1. ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อยังถือว่าเป็นเด็กและเยาวชนอยู่ เพราะเมื่อเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะศาลจึงถือว่าเด็กอาจจะตอบรับไปด้วยความที่รู้ไม่เท่าทันความคิดของผู้ใหญ่ ดังนั้นถึงแม้ว่าเด็กๆ เหล่านี้อาจจะยินยอมหรือตกลงที่จะมีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่ในทางกฎหมายแล้วถือว่าคำตกลงเหล่านี้เป็นโมฆะ ไม่สามารถนำมาใช้ได้  เนื่องจากที่อเมริกาในแต่ละรัฐจะมีกฎหมายบังคับใช้เป็น ของตัวเอง อายุของเด็กและเยาวชนในแต่ละรัฐจึงแตกต่างกัน ส่วนใหญ่ค่าเฉลี่ยอายุเด็กหรือเยาวชนที่อเมริกาจะอยู่ที่อายุต่ำกว่า 16 หรือ 18 ปี ซึ่งศาลจะถือว่ายังไม่บรรลุนิติภาวะ2. ถ้าผู้ที่ตกเป็นเหยื่อไม่ได้เป็นคนปกติหรือไม่มีสติครบถ้วนตอนที่มีเพศสัมพันธ์กัน

Read More

The 5 Levels of Leadership

 ชื่อหนังสือ               :               The 5 Levels of Leadershipผู้แต่ง                     :               John C. Maxwellสำนักพิมพ์              :               Center Streetจำนวนหน้า              :               289ราคา                     :               25.99 ดอลลาร์สหรัฐJohn C. Maxwell ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นผู้นำ กล่าวไว้ใน The 5 Levels of

Read More

360 Degrees of Influence

 ชื่อหนังสือ              : 360 Degrees of Influenceผู้แต่ง                    : Harrison Monarthสำนักพิมพ์             : McGraw-Hillจำนวนหน้า             : 282ราคา                     : 25.00 ดอลลาร์สหรัฐความเป็นผู้นำไม่จำเป็นต้องมีเฉพาะในคนที่อยู่ตำแหน่ง สูงเท่านั้น ผู้นำที่ดีคือผู้นำที่นั่งอยู่ในใจคน ทั้งคนที่อยู่ใต้เขาและเหนือกว่าเขา ไม่ใช่นั่งอยู่บนหัวคนและยังรวมไปถึงการสามารถผูกใจคนที่อยู่ภายนอกองค์กร อย่างเช่นลูกค้าและหุ้นส่วนได้ด้วย ความสามารถในการผูกใจคนแบบรอบด้าน 360 ํ

Read More

The Thank You Economy

 ชื่อหนังสือ              : The Thank You Economyผู้แต่ง                    : Gary Vaynerchukสำนักพิมพ์             : Harper Businessจำนวนหน้า             : 240ราคา                     : 24.99 ดอลลาร์สหรัฐโลกธุรกิจเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคใหม่โดยที่ใครๆ อาจไม่ทันสังเกต Thank You Economy ถือกำเนิดขึ้นมาจากอินเทอร์เน็ต โลกออนไลน์ซึ่งได้คืน “เสียง” กลับคืนสู่ผู้บริโภคและเพิ่มพลังอำนาจมหาศาลแก่ “ความเห็น” ของผู้บริโภคที่แสดงผ่านโซเชียลมีเดีย สื่อยุคใหม่มาแรงที่กำลังมีอำนาจเพิ่มขึ้นทุกขณะ Thank

Read More

สวนสวรรค์ฝีมือยอดดีไซเนอร์ Oscar de la Renta

 "ผมรู้ตัวว่าเป็นคนชอบควบคุมทุกสิ่งทุกอย่าง จึงไม่น่าแปลกที่ผมชอบเคลื่อนย้ายโน่นนี่อยู่ตลอดเวลา”Oscar de la Renta นักออกแบบแฟชั่นชื่อก้องโลกอธิบายแนวทางการทำสวนด้วยวิธีเข้าไปมีส่วนร่วมโดยตรง ซึ่งสืบเนื่องจากลักษณะนิสัยและธรรมชาติของตัวเขานั่นเอง เขามีความสุขกับการได้พูดถึงร้านกล้วยไม้พันธุ์แวนด้า หรือเนินเขาที่เต็มไปด้วยต้นด็อกวูด (ต้นไม้ที่มีดอกสีเขียวขาวและลูกสีม่วง)... เหล่านี้คือรางวัลแห่งการทุ่มเททำสวนอย่างหนักแม้จะโลดแล่นอยู่บนความสำเร็จของการสร้างแบรนด์ระดับโลก De la Renta ก็ยังให้เวลาและให้ความสำคัญกับการสวมเสื้อเชิ้ตโปโลเก่าๆ กับกางเกงขาสั้นสีกากี เพื่อลงสวนกับเหล่าคนงาน แล้วมุ่งมั่นกับงานทำสวนที่มีตั้งแต่งานตัด งานขุด และงานรดน้ำ โดยมีAnnette ภรรยาคู่ชีวิตอยู่เคียงข้างเสมอ เห็นได้จากฉายาที่เธอถูกเพื่อนๆ กระเซ้าเย้าแหย่ว่าเป็น “เหล็กคุ้ยหญ้า” ที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยปัจจุบันทั้งคู่เดินทางไปมาระหว่างอพาร์ตเมนต์ที่แมนฮัตตันกับบ้านพักตากอากาศสองแห่งที่ธรรมชาติขยันสร้างปัญหาสารพัดอย่างให้พวกเขาคอยแก้ไขอยู่ตลอดเวลา บ้านพักตากอากาศแห่งแรก ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจีที่คอนเนตทิคัท อีกแห่งหนึ่งอยู่ริมทะเลที่สาธารณรัฐโดมินิกัน ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนักออกแบบชื่อดังวัย 80 ปีนั่นเองDe la Renta มีความสุขกับบ้านพักตากอากาศทั้งสองแห่งก็จริง แต่ยอมรับว่าสวนสวรรค์ที่บ้านเกิดชนะใจเขาอย่างไม่มีข้อแม้อันที่จริงนักออกแบบสายเลือดโดมินิกันเคยมีบ้านพักตากอากาศที่บ้านเกิดมาแล้วตั้งแต่ปี 1971 ครั้งนั้นเขาได้รับแรงบันดาลใจ จากบ้านไทย ทำให้รีสอร์ตที่ Casa de Campo เต็มไปด้วยร้านกล้วยไม้และไม้ตัดดอกที่ให้กลิ่นหอมชวนหลงใหล อาทิ ดอกพุด กระดังงา และซ่อนกลิ่น ขณะที่ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดีและราบรื่น บรรดาเพื่อนบ้านของเขากลับเปลี่ยนรสนิยมจากการเป็นนักนิยมธรรมชาติมาเป็นนักธุรกิจสร้างสนามกอล์ฟกันดาษดื่น ทำให้เขาต้องล้มเลิกโครงการไปโดยปริยายปลายทศวรรษ 1990 De la Renta กับเพื่อนอีกสองสามคน ค้นพบชายหาดทางชายฝั่งตะวันออกของโดมินิกันที่ธรรมชาติยังคงความงดงามยังไม่ถูกทำลาย จึงเข้าหุ้นกันพัฒนาเขตบ้านพักอาศัย ขึ้นที่ Punta Cana ซึ่งเขามีโอกาสนำประสบการณ์ที่เคยคร่ำหวอด กับรีสอร์ตแถบชายฝั่งทางใต้ของประเทศมานานนับสิบปี

Read More