ความพยายามของกลไกภาครัฐที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านการเดินทางท่องเที่ยวและการรับประทานอาหาร ภายใต้มาตรการลดหย่อนภาษีในช่วงระหว่างวันที่ 9-17 เมษายนที่ผ่านมา แม้จะดำเนินไปท่ามกลางความชุ่มฉ่ำของเทศกาลสงกรานต์ แต่ดูเหมือนว่าเจตจำนงของรัฐดังกล่าวนี้จะไม่ประสบผลสัมฤทธิในการกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจให้ตื่นตัวคึกคักได้อย่างที่ตั้งใจ ไม่นับรวมภาวะภัยแล้งที่ทำให้ความรื่นเริงช่วงสงกรานต์ในหลายพื้นที่หดสั้นลง ขณะที่ภาพรวมทางเศรษฐกิจก็ยังไม่มีปัจจัยบวกมากพอให้ประชาชนมีความมั่นใจในการจับจ่ายใช้สอยมากนัก ความถดถอยทางเศรษฐกิจและภาวะชะลอตัวในการจับจ่ายที่ปรากฏขึ้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ กลายเป็นประหนึ่งสัญญาณเตือนภัยครั้งใหม่ ที่กำลังทวีความน่ากังวลใจไม่น้อยเลย ขณะที่กลไกภาครัฐต่างพยายามเร่งระดมมาตรการกระตุ้นเสริมพร้อมกับคำปลอบโยนว่าเศรษฐกิจไทยกำลังผงกหัวขึ้น ไม่ว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจะสวนทางกับถ้อยแถลงเหล่านั้นหรือไม่ก็ตาม ก่อนหน้านี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยรายงานผลสำรวจภาวะการครองชีพของครัวเรือนไทยล่าสุด ในเดือนมีนาคม 2559 ระบุว่า ภาระค่าครองชีพยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ครัวเรือนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญและชั่งน้ำหนักก่อนที่จะตัดสินใจใช้จ่าย โดยเฉพาะรายจ่ายในส่วนที่อยู่นอกเหนือไปจากค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน (KR-ECI) ในเดือนมีนาคม 2559 ยังคงลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 มาอยู่ที่ 43.6 เช่นเดียวกับดัชนีสะท้อนการคาดการณ์ของครัวเรือนในช่วง 3 เดือนข้างหน้า (3-month Expected KR-ECI) ที่ปรับตัวลดลงมาที่ 45.0 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 8 เดือน “บรรยากาศการใช้จ่ายอย่างระมัดระวังของครัวเรือนทุกภาคส่วนนับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2559 เป็นต้นมา เป็นภาพสะท้อนข้อเท็จจริงหนึ่งที่ว่า ตราบใดที่สัญญาณด้านรายได้ของครัวเรือนยังคงไม่กระเตื้องขึ้นอย่างเด่นชัด และ/หรือมีปัจจัยพิเศษมากระตุ้นการตัดสินใจใช้จ่ายแล้ว คงต้องใช้เวลาอีกระยะกว่าที่การบริโภคจะฟื้นตัวกลับสู่ภาวะปกติ” ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุ และคาดการณ์ว่าการบริโภคภาคเอกชนในปี 2559 อาจขยายตัวที่ร้อยละ 1.9 ซึ่งต่ำลงกว่าตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 2.1 ขณะเดียวกันกลไกที่เกี่ยวข้องกับความเป็นไปของเศรษฐกิจไทยดูจะมีแนวโน้มยอมรับในข้อเท็จจริงที่กำลังคืบคลานมาเผชิญหน้าเหล่านี้มากขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
Tourismการท่องเที่ยวการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) Read More