วันอังคาร, เมษายน 23, 2024
Home > Life > ส่องเทรนด์ที่อยู่อาศัยแบบไหน โดนใจวัยเกษียณ

ส่องเทรนด์ที่อยู่อาศัยแบบไหน โดนใจวัยเกษียณ

มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย เปิดเผยว่า ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Complete Aged Society) ในปี 2565 นั่นหมายความว่า จะมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปมากกว่า 20% หรือมีคนอายุ 65 ปีขึ้นไปมากกว่า 14% ของประชากรทั้งประเทศ ตามเกณฑ์การจำแนกขององค์การสหประชาชาติ ในขณะที่อัตราเด็กเกิดใหม่ต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด สำนักงานสถิติแห่งชาติแสดงข้อมูลจำนวนการเกิดประจำปี 2564 พบว่า มีประชากรเกิดทั้งหมด 544,570 คน

จากแนวโน้มดังกล่าวย่อมส่งผลต่อภาคธุรกิจและบริการต่างๆ ที่ต้องปรับตัวเพื่อรองรับโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนไป รวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ด้วยเช่นกัน

ผู้บริโภควางแผนซื้อที่อยู่อาศัยหลังเกษียณมากขึ้น เชียงใหม่ยังครองแชมป์
ผลสำรวจล่าสุดของ DDproperty (ดีดีพร็อพเพอร์ตี้) เว็บไซต์มาร์เก็ตเพลสด้านอสังหาริมทรัพย์ เผยให้เห็นว่า ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการวางแผนซื้อที่อยู่อาศัยรองรับชีวิตหลังเกษียณมากขึ้น โดยเชียงใหม่ยังเป็นเมืองยอดนิยมอันดับหนึ่งที่ผู้บริโภคต้องการไปใช้ชีวิตหลังเกษียณ (24%) ตามมาด้วยเชียงราย และชลบุรี (10% และ 8% ตามลำดับ)

โดย 52% เผยว่า ปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดให้สนใจไปอยู่ทำเลดังกล่าวมาจากการได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติหรือพื้นที่สีเขียว ตามมาด้วยสถานที่ตั้งอยู่ใกล้สถานพยาบาลเพื่อความสะดวกหากต้องไปพบแพทย์ 49% และอยู่ใกล้ระบบขนส่งมวลชนที่ช่วยให้เดินทางไปที่ต่างๆ สะดวกขึ้น 44%

บ้านที่ดีต้องส่งเสริมสุขภาพ
โควิด-19 เป็นตัวจุดประกายให้ผู้บริโภคทุกช่วงวัยเห็นถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุซึ่งถือเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อแล้วป่วยหนัก เห็นได้ชัดว่าผู้สูงอายุมีความตื่นตัวและให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ซึ่งเชื่อมโยงกับการเลือกบ้านที่เสริมสร้างความสบายใจในการดูแลสุขภาพ เนื่องจากถือเป็นช่วงวัยที่ได้ใช้เวลาอยู่ที่บ้านมากขึ้น

โดย 3 ใน 4 ของผู้บริโภคอายุ 60 ปีขึ้นไป (75%) หันมาตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างสุขภาพที่ดีมากขึ้น ไม่เพียงแต่มีผลต่อแนวคิดการดำเนินชีวิตเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านความต้องการที่อยู่อาศัยเช่นกัน

ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ 74% เผยว่ายินดีที่จะจ่ายเพิ่มหากโครงการอสังหาริมทรัพย์มีฟังก์ชันการใช้งานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ในขณะที่ 2 ใน 3 ของผู้สูงอายุ (69%) มองว่าระบบระบายอากาศและแสงธรรมชาติที่เพียงพอถือเป็นคุณสมบัติที่สำคัญและมีความจำเป็นสำหรับที่อยู่อาศัย

ขนาดที่อยู่อาศัยคือปัจจัยดึงดูด
ขนาดของที่อยู่อาศัยเป็นปัจจัยหลักภายในโครงการที่มีความสำคัญอันดับต้นๆ ที่ผู้สูงอายุตัดสินใจซื้อถึง 55% เนื่องจากมองว่าพื้นที่ใช้สอยในบริเวณบ้านควรมีเพียงพอและรองรับการทำกิจกรรมที่หลากหลายของคนในครอบครัวที่มีหลายช่วงวัย

ส่วนปัจจัยภายนอกโครงการที่ผู้สูงอายุใช้พิจารณาเมื่อเลือกซื้อ/เช่าที่อยู่อาศัยจะเน้นไปที่การเพิ่มความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตปัจจุบันเป็นหลัก โดย 56% ต้องการโครงการที่เดินทางสะดวกและเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ ตามมาด้วยพิจารณาจากทำเลที่ตั้ง 52% และความปลอดภัยของทำเล 44% เพื่อรองรับการใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างสบายใจแม้อยู่เพียงลำพัง

“บ้านพักคนชรา หรือ บ้าน/คอนโดผู้สูงอายุ” แบบไหนคือคำตอบ?
นอกจากนี้ “ดีดีพร็อพเพอร์ตี้” ยังได้แนะนำแนวทางการเลือกที่อยู่อาศัยรองรับวัยเกษียณเพิ่มเติม เพื่อให้ผู้บริโภคได้วางแผนเลือกบ้านหลังสุดท้ายที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตเมื่อถึงวัยพักผ่อนจากการทำงาน เพราะผู้สูงอายุต่างมีความต้องการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน บางคนต้องการความเป็นส่วนตัว บางคนอยากทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนวัยเดียวกัน ผู้สูงอายุที่ครองตัวเป็นโสดอาจต้องการที่อยู่อาศัยที่มีบริการด้านสุขภาพมาทดแทนการดูแลจากบุตรหลาน จึงต้องเลือกที่อยู่อาศัยที่เหมาะกับความต้องการ

“บ้านพักคนชรา”
เป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่มีเจ้าหน้าที่และพยาบาลวิชาชีพคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งมีอุปกรณ์รักษาพยาบาลตามระดับความต้องการ เหมาะกับผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลมากเป็นพิเศษ หรือไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ โดยบ้านพักคนชราจะมีบริการอาหารครบ 3 มื้อ มีกิจกรรมต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้อยู่อาศัย ห้องพักพื้นฐานในแต่ละโครงการจะมีให้เลือกทั้งแบบห้องพักรวม ห้องพักเดี่ยวที่เสียค่าใช้จ่ายเมื่อเข้าพักเป็นรายเดือน หรือบ้านพักแบบพิเศษที่มีลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว ซึ่งต้องจ่ายค่าแรกเข้าเพื่อบำรุง/ปรับปรุงที่พักเป็นเงินก้อนและจ่ายค่าเข้าพักรายเดือนเช่นกัน บ้านพักคนชราจึงเหมาะกับผู้สูงอายุที่มีเงินเดือนหรือรายได้ต่อเดือนสม่ำเสมอ หรือมีเงินบำนาญ

ปัจจุบันบ้านพักคนชรามีหลายรูปแบบและหลายระดับราคาให้เลือกเริ่มต้นจากหลักพัน โดยคิดราคาจากความต้องการของผู้สูงอายุและความยากง่ายในการดูแล อย่างไรก็ดี จากแนวโน้มผู้สูงอายุในประเทศไทยที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้บ้านพักคนชราบางรูปแบบที่มีราคาไม่แพงมีจำนวนไม่เพียงพอกับความต้องการ ผู้ที่สนใจจึงควรตรวจสอบคุณสมบัติให้พร้อมก่อนวางแผนจองคิวบ้านพักคนชราที่สนใจไว้ล่วงหน้า

“บ้าน/คอนโดผู้สูงอายุ”
เป็นโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุยุคใหม่ที่สามารถดูแลตัวเองได้ มีสุขภาพแข็งแรง และยังต้องการเข้าสังคมพบปะเพื่อนฝูง โดยบ้าน/คอนโดผู้สูงอายุจะออกแบบที่พักอาศัยโดยคำนึงถึงความสะดวกและความปลอดภัยในการดำเนินชีวิตของผู้สูงอายุเป็นหลัก มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลและให้บริการตลอด 24 ชม. มีพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเหมือนโครงการที่อยู่อาศัยทั่วไป พร้อมทั้งมีกิจกรรมต่างๆ ให้ได้ทำร่วมกับเพื่อนวัยเดียวกัน

โดยรูปแบบการซื้อขายมีทั้งแบบขายสิทธิอยู่อาศัย 30 ปี ขายสิทธิการอยู่อาศัยตลอดชีวิต หรือขายขาด ราคาที่พักแต่ละโครงการเริ่มต้นตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักล้าน เหมาะกับผู้สูงอายุที่มีเงินเก็บก้อนใหญ่ มีการวางแผนการเงินอย่างเป็นระบบ โดยผู้สูงอายุต้องเตรียมเงินให้พร้อมก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ และต้องมีเงินเก็บสำรองสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอีกด้วย เนื่องจากต้องรับผิดชอบค่าอาหาร ค่าทำความสะอาด ค่ากิจกรรมต่างๆ และค่ารักษาพยาบาลเอง

โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับวัยเกษียณจึงถือเป็นเทรนด์ที่น่าจับตามองท่ามกลางโครงสร้างประชากรที่กำลังเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย และในขณะเดียวกันก็ถือเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับตัวเราเองด้วยเช่นกัน เพราะการวางแผนเรื่องที่อยู่อาศัยในวัยเกษียณไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
ที่มา: แบบสอบถามความคิดเห็นของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดที่อยู่อาศัย DDproperty’s Thailand Consumer Sentiment Study

ใส่ความเห็น