วันศุกร์, เมษายน 19, 2024
Home > Life > สัญญาณมะเร็งเต้านมที่ไม่ใช่คลำพบก้อนเนื้อ

สัญญาณมะเร็งเต้านมที่ไม่ใช่คลำพบก้อนเนื้อ

Column: Well – Being

บ่อยครั้งที่การวินิจฉัยมะเร็งเต้านมมักมีรูปแบบนี้ : คุณผู้หญิงรู้สึกมีก้อนเนื้อบริเวณเต้านม และนัดพบแพทย์ แพทย์ก็ดำเนินการทดสอบบางอย่าง ซึ่งอาจรวมถึงการตรวจเต้านม การทำแมมโมแกรม การทำอัลตราซาวด์ การตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ หรือการทดสอบหลายอย่างผสมกัน และผลการวินิจฉัยระบุว่า ก้อนเนื้อนั้นเป็นเนื้อร้ายหรือมะเร็ง

นั่นคือเหตุผลว่า ทำไมผู้หญิงจึงถูกกระตุ้นให้ตรวจสอบตัวเองอย่างสม่ำเสมอ และให้ทำความคุ้นเคยกับเต้านมของตนจนสามารถสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกิดขึ้น

แต่ก้อนเนื้อไม่ใช่อาการมะเร็งเต้านมเพียงอย่างเดียวที่คุณผู้หญิงต้องเฝ้าจับตาดู จริงๆ แล้วผลการศึกษาปี 2017 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Cancer Epidemiology พบว่า 1 ใน 6 ของผู้หญิงที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม มีอาการอื่นอีกหลายอย่างที่นอกเหนือจากก้อนเนื้อบริเวณเต้านม

ดร. โจเซฟ เวเบอร์ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งเต้านมแห่งออโรรา เฮลท์ แคร์ รัฐมิลวอคกี อธิบายว่า เพราะการไม่ค่อยตระหนักถึงอาการมะเร็งเต้านมที่ไม่ค่อยเป็นอาการร่วม ซึ่งนักวิจัยระบุว่าเป็น “อาการที่ไม่ตรงไปตรงมา” (atypical presentations) ที่สามารถทำให้การวินิจฉัยในคนไข้บางคนล่าช้าออกไป แน่นอนว่า การวินิจฉัยพบโรคเร็วขึ้นจะทำให้มีโอกาสได้รับการบำบัดรักษาเร็วขึ้น ซึ่งนับว่าดีที่สุดทีเดียว

แต่นั่นไม่ได้แนะนำว่า คุณควรหยุดการตรวจดูเต้านมของคุณ ผลการศึกษาของ Cancer Epidemiology ระบุว่า ร้อยละ 83 ของผู้หญิงที่มีอาการมะเร็งเต้านม ได้รับการวินิจฉัยโดยพบก้อนเนื้อที่เต้านมก่อนเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตาม การตระหนักถึงสัญญาณอื่นๆ มากขึ้นอีกหน่อยก็ไม่มีอะไรเสียหาย “ผลการศึกษาของเราเน้นถึงโอกาสของการเปลี่ยนจุดเน้นในความตระหนักถึงอาการที่นำไปสู่มะเร็งเต้านมที่นอกเหนือจากก้อนเนื้อที่เต้านม”
ดร. เวเบอร์เห็นด้วยที่ว่า “ถ้าผู้หญิงสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่เกิดขึ้นกับเต้านม พวกเธอจำเป็นต้องให้แพทย์ประเมินอาการให้” และกล่าวต่อไปว่า “ให้คุยกับแพทย์เกี่ยวกับอะไรก็ตามที่ดูแล้วแตกต่างจากลักษณะปกติของมัน” เหล่านี้คือ อาการหลักของมะเร็งเต้านมที่ต้องระมัดระวัง

นิตยสาร Prevention นำเสนอ 6 อาการสัญญาณมะเร็งเต้านมที่พึงระวังดังนี้

(1) ระคายเคืองผิวหนังหรือมีรอยบุ๋ม
ดร. เวเบอร์ ให้ข้อมูลว่าอาการที่ผิวหนังเป็นวงและตกสะเก็ด หรือหนากว่าปกติ หรือผิวหนังเริ่มมีรอยบุ๋ม สามารถส่งสัญญาณมะเร็งเต้านมได้ มะเร็งเต้านมบางชนิดทำให้ช่องทางการไหลเวียนของเลือดจากภายในเต้านมไปสู่ผิวหนังอุดตัน ส่งผลให้ผิวหนังเกิดความเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เต้านมมีลักษณะเหมือนถูกห่อหุ้มด้วยเปลือกส้ม

(2) เจ็บเต้านมหรือหัวนม
มีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเจ็บเต้านมหรือหัวนม เช่น กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน ตั้งครรภ์ หรือแม้กระทั่งภาวะหมดประจำเดือน แต่ถ้าคุณสังเกตอาการเจ็บที่เกิดขึ้นร่วมกับอาการมะเร็งเต้านมอื่นๆ สิ่งสำคัญคือต้องเล่าให้แพทย์ของคุณฟัง โดยไม่คำนึงว่าจะเป็นการปวดอย่างฉับพลันรุนแรงหรืออาการปวดหนึบๆ

(3) หัวนมถูกดึงรั้ง
มะเร็งเต้านมบางชนิดเป็นสาเหตุให้เกิดอาการที่เรียกว่า หัวนมถูกดึงรั้ง ซึ่งหัวนมม้วนกลับเข้าข้างใน ดร. เวเบอร์อธิบายว่า ที่เป็นอย่างนี้เพราะมีมวลกล้ามเนื้อเติบโตขึ้นภายในเต้านมและทำให้เกิดการเปลี่ยนรูปทรง ผลการวิจัยเมื่อเร็วๆ นี้ระบุว่า ร้อยละ 7 ของผู้หญิงที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม มีอาการหัวนมผิดปกติด้วย

(4) มีน้ำคัดหลั่งออกจากหัวนม
ความผิดปกติของหัวนมอีกอย่างหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ คือมีน้ำคัดหลั่งที่ไม่ใช่น้ำนมไหลออกมา ที่น่าขอบคุณคือ ส่วนใหญ่แล้วน้ำคัดหลั่งที่ออกจากหัวนมจะไม่ใช่มะเร็ง แต่สำคัญมากที่ต้องพบแพทย์ทันทีถ้าน้ำคัดหลั่งไหลออกมาเองโดยคุณไม่ได้สัมผัสหรือบีบหัวนม โดยเฉพาะถ้ามีเลือดไหลออกมาและเกิดอาการเพียงข้างเดียว

(5) สีหรือผิวเนื้อเปลี่ยนแปลง
หมายรวมถึงอาการแดง สีคล้ำ การตกสะเก็ด หรือหัวนมหรือผิวหนังที่เต้านมหนาตัวขึ้น มีมะเร็งเต้านมชนิดหนึ่งคือ โรคพาเก็ทของเต้านม ซึ่งเป็นอาการที่พบได้ยากและเริ่มต้นที่ท่อน้ำนม แล้วแพร่กระจายไปยังหัวนมและลานหัวนม มักเกิดขึ้นพร้อมกับการมีผื่นขึ้น

(6) เต้านมบวมทั้งเต้าหรือบางส่วน
มะเร็งเต้านมที่เกิดภาวะอักเสบมักเริ่มต้นด้วยอาการผิวหนังแดง อักเสบ และบวมขึ้นเพราะเซลล์มะเร็งเข้าไปอุดกั้นหลอดเลือดที่พาน้ำเหลืองไหลเวียนไปเลี้ยงร่างกาย

ใส่ความเห็น