วันอังคาร, มีนาคม 19, 2024
Home > Life > ช่วยกันลดกินเนื้อวัวเพื่อคุณ … เพื่อโลก

ช่วยกันลดกินเนื้อวัวเพื่อคุณ … เพื่อโลก

Column: Well – Being

ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบ เนื้อวัวเป็นวัตถุดิบสำคัญในอาหารของชาวอเมริกัน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นชาติที่กินเนื้อวัวมากที่สุดในโลกประมาณ 58 ปอนด์ต่อคนต่อปี (ขณะที่คนทั่วโลกกินเนื้อวัวเฉลี่ยเพียง 14 ปอนด์ต่อคนต่อปี)

แม้ว่าบางคนจะยังคงสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเนื้อวัวชนิดขาดไม่ได้ แต่ก็มีหลักฐานแจ้งชัดที่ชี้แนะว่า การลดกินเนื้อวัวจะเป็นคุณกับตัวคุณเองและโลกของเรา นิตยสาร Prevention จึงประกาศโครงการรณรงค์ลดการกินเนื้อวัวว่า นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2020 เป็นต้นไป ครัวของนิตยสารเล่มนี้จะไม่สร้างสรรค์สูตรอาหารใหม่ที่มีเนื้อวัวเป็นส่วนประกอบอีกต่อไป และจะหันไปเน้นโปรตีนชนิดอื่นแทนโดยให้เหตุผลว่า …

เนื้อวัวสร้างปัญหาให้โลก
ผลการศึกษาปี 2018 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature ฟันธงว่า การเลี้ยงสัตว์เป็นธุรกิจที่ไม่มีประสิทธิภาพ การผลิตปศุสัตว์ต้องใช้พื้นที่การทำฟาร์มของโลกถึงร้อยละ 83 แต่สามารถผลิตแคลอรีรวมได้เพียงร้อยละ 18 และผลิตโปรตีนรวมเพียงร้อยละ 37 ซ้ำร้ายกว่านั้น ไม่ได้หมายความว่า ฟาร์มทั้งหมดดังกล่าวจะสร้างความยั่งยืนให้โลกได้

ผลการศึกษาปี 2016 กล่าวว่า อุตสาหกรรมการผลิตเนื้อวัวทำให้เกิดการทำลายป่าในลุ่มน้ำแอมะซอนถึงร้อยละ 80 โดยทั่วไปแล้ว โลกต้องรับภาระหนักหน่วงกว่าการผลิตแหล่งโปรตีนจากสัตว์ชนิดอื่นๆ มาก ได้แก่ เนื้อหมู และสัตว์ปีก ที่สำคัญมีธุรกิจน้อยรายมากที่ใช้แนวทางยั่งยืน เช่น การเลี้ยงสัตว์ที่มีการจัดการ

ผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพต้องดำเนินควบคู่กันไป
เนื้อแดงซึ่งในสหรัฐอเมริกามักหมายถึงเนื้อวัว สัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง

กลุ่มนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยมินเนโซตาทำการศึกษาเมื่อปี 2019 โดยเชื่อมโยงสุขภาพของเรากับสุขภาพของสิ่งแวดล้อมว่า

“อาหารที่สัมพันธ์กับผลกระทบเชิงลบต่อสิ่งแวดล้อมขนานใหญ่ที่สุด ได้แก่ เนื้อแดงทั้งที่แปรรูปและไม่แปรรูป มักสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมากที่สุดด้วย การเปลี่ยนพฤติกรรมไปสู่การบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น จะช่วยสร้างความยั่งยืนเชิงสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นได้”

แค่ยอมเปลี่ยนระดับปัจเจกก็สร้างความแตกต่างแล้ว
สุจาธา เบอร์เกน ผู้อำนวยการโครงการรณรงค์เพื่อสุขภาพแห่งสภาป้องกันทรัพยากรธรรมชาติ กล่าวว่า เมื่อผู้บริโภคเลือกกินเนื้อวัวอย่างมีความรู้ พวกเขาสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ในระดับมหาศาล “ถ้าชาวอเมริกันทุกคนสามารถลดการกินเบอร์เกอร์ 1 ชิ้นออกจากมื้ออาหารในหนึ่งสัปดาห์ จะเทียบเท่าการดึงรถออกจากถนนถึง 10 ล้านคันในแต่ละปีเลยทีเดียว การเปลี่ยนชนิดอาหารของคุณจึงเป็นวิธีที่ยิ่งใหญ่ในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อนด้วยส้อมจิ้มอาหารของคุณ”

ไบรอัน เคทแมน กรรมการผู้จัดการใหญ่และผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิ Reducetarian เน้นย้ำการลดปริมาณการกินเนื้อวัวลงด้วยการเปรียบเทียบว่า “การซื้อรถเทสลาให้ได้สักหนึ่งคันไม่ได้หมายความว่า ทุกคนสามารถทำได้ แต่เรามีโอกาสมากมายในการเขี่ยเนื้อออกจากจานข้าวและหันมากินผัก ผลไม้ ธัญพืชเต็มเมล็ด และถั่วในมื้ออาหารแทน”

“การบริโภคเนื้อวัวไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง” เคทแมนอธิบายเพิ่มเติม “คุณอาจรู้สึกตกใจกลัวการกินมังสวิรัติ แต่ถ้าเราสามารถทำให้คนส่วนใหญ่ช่วยกันลดปริมาณการกินลงคนละเล็กละน้อย นั่นจะให้ผลแตกต่างที่ยิ่งใหญ่กว่าการให้คนเพียงไม่กี่คนเปลี่ยนมากินอาหารมังสวิรัติ”

และถ้าคุณมีโอกาสซื้อผลผลิตจากเกษตรกรท้องถิ่นผู้ยึดมั่นในวิถีธุรกิจที่ยั่งยืน นั่นคือการแสดงให้เห็นอย่างแข็งแกร่งว่าคุณสนับสนุนค้ำจุนโลกใบนี้

ใส่ความเห็น