วันศุกร์, มีนาคม 29, 2024
Home > New&Trend > “ไฮเออร์” ทุ่มงบ 50 ล้านบาท ส่งแบรนด์น้องใหม่ “แคนดี้” เครื่องใช้ไฟฟ้าจากอิตาลี เปิดตัว “มิว” – “กลัฟ” แบรนด์แอมบาสเดอร์แรกในไทย

“ไฮเออร์” ทุ่มงบ 50 ล้านบาท ส่งแบรนด์น้องใหม่ “แคนดี้” เครื่องใช้ไฟฟ้าจากอิตาลี เปิดตัว “มิว” – “กลัฟ” แบรนด์แอมบาสเดอร์แรกในไทย

“ไฮเออร์” ทุ่มงบ 50 ล้านบาท ส่งแบรนด์น้องใหม่ “แคนดี้” เครื่องใช้ไฟฟ้าจากอิตาลี ลุยตลาดอีคอมเมิร์ซเต็มตัว เปิดตัวสองหนุ่มสุดฮ็อต “มิว” – “กลัฟ” แบรนด์แอมบาสเดอร์แรกในไทย เจาะกลุ่มไลฟ์สไตล์ GenY คาดยอดขายปีแรกสูงถึง 300 ล้านบาท

“แคนดี้” (Candy) ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติอิตาลี ในกลุ่มบริษัท ไฮเออร์ ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก และเป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอันดับ 1 ของโลกติดต่อกัน 12 ปีซ้อน บุกตลาดอีคอมเมิร์ซ (E-commerce) อย่างเต็มตัว ล่าสุด เปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์แรกในไทย สองหนุ่มสุดฮ็อต “มิว” ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ และ “กลัฟ” คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ ตอบรับไลฟ์สไตล์กลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่และวัยทำงาน พร้อมทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท จัดแคมเปญแนะนำสินค้าใหม่ที่พัฒนาขึ้นเพื่อผู้บริโภคยุคใหม่อย่างแท้จริง ทั้งฟังก์ชันการใช้งานที่สะดวก ดีไซน์ทันสมัย

มร. จาง เจิ้งฮุ้ย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายแบรนด์ ไฮเออร์ (Haier) ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก และแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอันดับ 1 ของโลกติดต่อกัน 12 ปีซ้อน เผยว่า “ในฐานะที่ไฮเออร์เป็นแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 1 ของโลก ทำให้เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวมทั้งเทรนด์ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อผลิตสินค้านวัตกรรมตอบสนองความต้องการแก่กลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ

ทั้งนี้ หนึ่งในเทรนด์ใหญ่หรือ Mega Trends ที่ทรงอิทธิพลมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือ ผู้บริโภคเจนเนอเรชั่นใหม่ๆ โดยเฉพาะ GenY อายุ 24-39 ปี ซึ่งทำงาน มีอำนาจในการจับจ่ายใช้สอย รวมถึงผู้บริโภค GenZ ที่กำลังจะเติบโตขึ้นเป็นวัยทำงาน เป็นผู้ใหญ่ที่มีกำลังซื้อในภายภาคหน้า ทำให้บริษัทฯ ต้องทำความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคเชิงลึก (Insight) เพื่อสร้างสรรค์สินค้าและบริการที่ตรงใจลูกค้า

ส่วนอีกเทรนด์ที่ร้อนแรงทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยคือ การจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ ในปี 2563 ตลาดมีมูลค่า 2.94 แสนล้านบาท เติบโต 81% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโต 35% ทั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการออกจากบ้าน และยังต้องทำงานที่บ้าน หากต้องการช้อปปิ้งจะซื้อสินค้าผ่านออนไลน์แทนการไปใช้บริการหน้าร้านเพื่อป้องกันความเสี่ยง พฤติกรรมเหล่านี้เป็นปฏิกิริยาเร่งให้การขายสินค้าผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซเติบโตสูงยิ่งขึ้น

จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้บริษัทเปิดตัวแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าน้องใหม่ “แคนดี้ (Candy)” เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ โดยเริ่มจำหน่ายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะ ตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยสินค้ามีความโดดเด่นทั้งด้านดีไซน์ ราคาคุ้มค่า ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ วัยเริ่มต้นทำงาน นักศึกษา ที่มองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าหอพัก พ่อบ้าน แม่บ้านรุ่นใหม่ที่ต้องการตัวช่วยอำนวยความสะดวกภายในบ้าน สามารถตัดสินใจซื้อได้อย่างง่ายดาย และสะดวกรวดเร็ว

สำหรับจุดเด่นของแบรนด์ “แคนดี้ (Candy)” เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าจากอิตาลี ที่มีดีไซน์เรียบหรูดูแพง แต่ราคาไม่แรง ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ด้านความคุ้มค่าอย่างมาก เหมาะกับผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ที่ฉลาดเลือกซื้อสินค้าที่มีความคุ้มค่าทั้งคุณภาพและราคา”

มร. จาง เจิ้งฮุ้ย กล่าวถึงไลน์อัพสินค้าที่นำเสนอเข้าสู่ตลาดเพิ่มเติมว่า “แคนดี้ (Candy) ส่ง 4 กลุ่มผลิตภัณฑ์ลุยตลาด ซึ่งได้แก่

1. เครื่องปรับอากาศ Candy PID Inverter ประหยัดไฟสูงสุด พร้อมทั้งรักษาอุณหภูมิห้องได้คงที่ เย็นเร็วไม่ต้องรอนาน เร่งความเร็วให้เย็นขึ้น 47% มีฟังชั่นทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศภายใน 20 นาที และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

2. ตู้เย็น Candy Side by Side 2 ประตู มีคุณสมบัติเด่นด้านการประหยัดพลังงานมากกว่าปกติสูงถึง 38% ดีไซน์สวย ประตูสีดำด้าน Flat Matt Black สวยงามแข็งแรง พร้อมดิจิทัล คอนโทรล ระบบสัมผัส สั่งงานได้อย่างง่ายดาย และประหยัดพื้นที่แนวลึก เหมาะสำหรับ บิ้วท์-อิน (built-in)

3. เครื่องซักผ้า Candy ฝาบน มีโปรแกรมซักด่วนประหยัดเวลาและประหยัดพลังงาน วัสดุตัวถังภายในป้องกันการเกิดสนิมและแบคทีเรียตกค้าง โปรแกรมแช่ผ้า เพื่อขจัดคราบฝังลึกในเนื้อผ้าได้สะอาดยิ่งขึ้น ฝากระจกนิรภัย ป้องกันการขีดข่วนและการแตกหักง่าย

และ 4. สมาร์ททีวี Candy Android TV มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 9.0 สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเพิ่มเติมเข้าทีวีได้ เช่น WeTV, VIU หรือ Line TV และยังเชื่อมต่อ Wifi ได้พร้อมกับฟังก์ชั่น Netflix และ YouTube สำหรับช่องทางจัดจำหน่ายของ “แคนดี้ (Candy) ครอบคลุมทั้งมาร์เก็ตเพลสชั้นนำอย่าง ลาซาด้า (Lazada), ช้อปปี้ (Shopee) และ เจดี เซ็นทรัล (JD Central) รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ที่จะมีเพิ่มเติมอีกในอนาคต

สำหรับแนวทางการทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ “แคนดี้” ได้ทุ่มงบประมาณ 50 ล้านบาท เพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ และบริษัทได้ดึง 2 หนุ่มสุดฮ็อต “มิว” ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ และ “กลัฟ” คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ ตัวแทนของคนรุ่นใหม่มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ สร้างการรับรู้แบรนด์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Simplify Your Life ชีวิตง่าย สไตล์คุณ” พร้อมกันนี้ ได้ใช้การตลาดเชิงดนตรี (Music Marketing) มาสื่อสารสร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) กับกลุ่มเป้าหมาย โดยบริษัทได้สร้างสรรค์มิวสิควิดีโอ (MV) เพลงคู่มามัดใจผู้บริโภค ซึ่ง MV ดังกล่าว จะปล่อยให้ชมกันเป็นครั้งแรกวันที่ 2 พฤษภาคมนี้ ผ่านช่องทาง Facebook: CandyOfficialTH และ YouTube : Candy Thailand.”

“สำหรับการเลือกมิว-กลัฟ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์แรกในไทย เพราะทั้งคู่ถือเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต การทำงาน และยังมีคาแร็กเตอร์ที่สดใส สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์แคนดี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนจัดโปรโมชั่นมากมาย เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค รวมทั้งการสร้าง online community เพื่อมัดใจลูกค้าอย่างต่อเนื่องอีกด้วย” มร. จาง เจิ้งฮุ้ย กล่าวทิ้งท้าย

การทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ “แคนดี้ (Candy)” เป้าหมายปีแรกบริษัทต้องการสร้างยอดขายให้สูงถึง 300 ล้านบาท และในระยะยาว ต้องการผลักดันให้เป็นแบรนด์ครองใจผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ (Top of mind)

มร. จาง เจิ้งฮุ้ย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด

ใส่ความเห็น