วันอังคาร, เมษายน 16, 2024
Home > Life > ก้าวผ่านความเศร้า เมื่อน้องหมาน้องแมวกลับดาว

ก้าวผ่านความเศร้า เมื่อน้องหมาน้องแมวกลับดาว

การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา ธรรมชาติ เป็นวงจรชีวิตของทุกสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะคน หรือสัตว์ และเป็นเรื่องยากที่จะหลีกหนีความเป็นจริงพ้น บางคนอาจบอกว่า “การตายไม่ใช่เรื่องยาก แต่การอยู่โดยที่ยังคงระลึกถึงผู้ที่จากไปต่างหากที่ยากกว่า”

เช่นเดียวกันกับการจากไปของเหล่าสัตว์เลี้ยง ที่เจ้าของมักจะตกอยู่ในห้วงเวลาของความเศร้า ความคิดถึง จนยากที่จะทำใจ

ใครไม่เลี้ยงก็คงไม่รู้ บางคนอาจคิดว่าการจากไปของสัตว์ทั้งหลาย เป็นเรื่องธรรมดาสามัญ ชีวิตเล็กๆ ที่จากไปไม่น่าทำให้ใครต้องเศร้าเสียใจมากมายนัก ถ้าเพียงแค่หาตัวใหม่มาเลี้ยงก็พอเยียวยาจิตใจได้

ในขณะที่บางคน แม้จะมีสัตว์เลี้ยงตัวใหม่เข้ามาเติมเต็มในหัวใจไม่ว่าจะอีกกี่ตัวก็ตาม แต่สัตว์เลี้ยงตัวที่จากไป ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร “เจ้าตัวแสบ” ทั้งหลายจะยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำเสมอ

นั่นเพราะ ความรัก ความผูกพันที่เกิดขึ้นมาแล้วไม่อาจจะสูญหายไปได้ง่ายๆ ตามกาลเวลา นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์ทางความรู้สึก ที่หลายคนคงเคยได้พบเจอมาแล้ว

ปัจจุบันสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปในหลายมิติ โดยเฉพาะกับสถาบันครอบครัว คู่รักหลายคู่ตัดสินใจจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง หลายคู่เลือกที่จะไม่มีลูกด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป หลายคู่เป็นคู่รักในกลุ่ม LGBT ที่มองหาสัตว์เลี้ยงน่ารักๆ มาเลี้ยงเป็นเสมือนลูก จึงไม่น่าแปลกใจที่กลุ่มคนรักสัตว์ในยุคสมัยนี้จะค่อยๆ ขยายตัวมากขึ้น

และผู้เลี้ยงสัตว์มือใหม่หลายคนมักมีคำถามเมื่อความสูญเสียมาถึง “รับมือกับความสูญเสียอย่างไร” คำแนะนำที่พบเจอได้ง่ายคือ “ทำใจ” และ “หาสัตว์เลี้ยงตัวใหม่มาทดแทน” คล้ายจะง่าย แต่ไม่ง่ายเลยที่จะทำเช่นนั้นในแง่ความรู้สึก

วันนี้ “ผู้จัดการ 360 องศา” จะแนะนำวิธีการก้าวผ่านความเศร้า เมื่อน้องหมาน้องแมว หรือสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ ของเราต้องกลับดาว

สำหรับมือใหม่คงเป็นเรื่องยากไม่น้อย ที่จะทำใจให้ลืมความน่ารัก ความซน แก่น แสบ ของเจ้าตัวป่วนทั้งหลาย แม้จะเคยพัง ทำลายข้าวของตั้งแต่ชิ้นเล็กที่ไม่ค่อยมีราคาค่างวดอะไร ไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ที่ราคาสูงๆ อย่าง โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ฝากรอยเท้าไว้กับรถยนต์ เบาะรถมอเตอร์ไซค์ หรือเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน แต่เมื่อถึงเวลาจากกันไกล หัวใจเหมือนถูกดึงให้หายไปพร้อมๆ กับพวกเขา

การจากกันเป็นเรื่องธรรมดา
ใช้ชีวิตเป็นปกติ ตามกิจวัตรเดิมที่เคยทำ แม้จะมีเศษเสี้ยวหนึ่งในความรู้สึกที่เว้าแหว่งหายไปบ้าง ให้คิดเสียว่า การจากกันเป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะสิ่งสำคัญได้เกิดขึ้นมาแล้ว ในเวลาที่ได้เจอกันและได้อยู่ด้วยกัน เลี้ยงดูเจ้าตัวแสบทั้งหลาย นั่นเป็นโอกาสสำคัญที่ทำให้เหล่าเจ้านาย (สำหรับผู้เลี้ยงสุนัข) และเหล่าทาส (สำหรับผู้เลี้ยงแมว) ได้เรียนรู้ที่จะดูแลอีกหนึ่งชีวิตที่มีความพิเศษอยู่ในตัว

อย่าทำใจให้ลืม
เราไม่จำเป็นต้องทำใจ ไม่จำเป็นต้องลืม หรือพยายามลบภาพความทรงจำต่างๆ ที่เคยมีกับเจ้าตัวเล็กทั้งหลาย ประโยคที่ว่า “อยากจำกลับลืม อยากลืมกลับจำ” ยังคงจริงเสมอ ถ้าเราจะปล่อยให้พวกเขาอยู่ในความทรงจำของเราต่อไป ก็คงไม่แปลกอะไร เพราะส่วนใหญ่แล้วเรื่องราวที่เกิดขึ้นในระหว่างที่เราเลี้ยงดูพวกเขา ล้วนแต่เป็นเรื่องที่น่าจดจำแทบทั้งสิ้น เจอกันครั้งแรก อาละวาดบ้านพังครั้งแรก นอนด้วยกันครั้งแรก เจ็บป่วยครั้งแรก แม้ว่าวันเวลาจะผ่านล่วงเลยไป มีอีกหลายสิ่งที่เข้ามาทดแทนหรือทับถมเรื่องราวเก่าๆ ของเจ้าตัวเล็ก แต่ในท้ายที่สุดแล้ว เมื่อเราค้นหามันอีกครั้ง ความทรงจำเหล่านั้นจะยังคงชัดเจนและอยู่ที่เดิมเสมอ

ใช้โอกาสนี้เรียนรู้
อายุขัยของสัตว์เหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ สุนัขจะมีอายุขัยประมาณ 10-15 ปี ถ้าเกินกว่านี้ต้องนับว่าแข็งแรงมาก แมวมีอายุขัยเฉลี่ย 15-16 ปี หรือสัตว์เลี้ยงชนิดๆ อื่นก็จะแตกต่างกันไป อายุขัยของสัตว์เหล่านี้สั้นนัก นี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บอกเราว่า เหล่าคนเลี้ยงสัตว์จงใช้เวลาอันน้อยนิดเหล่านี้ในการเรียนรู้สิ่งต่างๆ จากพวกเขา ทั้งวิธีการเลี้ยงดูของแต่ละสายพันธุ์ การให้ความรัก ความเอาใจใส่ หรือแม้แต่โรคประจำของสายพันธุ์สัตว์เลี้ยง สำหรับบางคนอาจเป็นประสบการณ์ใหม่ในชีวิตที่จะทำความรู้จักอุปนิสัย หรือพฤติกรรมของสัตว์เหล่านี้ ที่เอ่ยออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ แต่พวกเขาใช้การกระทำในการแสดงออกถึงความต้องการ ผู้เลี้ยงบางคนอาจโทษตัวเองที่ไม่เก่ง ดูแลไม่ดีพอ จึงเกิดเรื่องร้าย แต่นั่นคือการเรียนรู้ บทเรียน ข้อผิดพลาด เราอาจนำมาปรับใช้กับสัตว์เลี้ยงตัวต่อไปในอนาคต

เก็บไว้ในความทรงจำ
นี่เป็นวิธีการปลอบประโลมหัวใจของผู้เลี้ยงอย่างหนึ่ง เราอาจเก็บสิ่งของ กระดูก นำมาทำเครื่องประดับ จี้ ใส่ในกรอบรูป หรือปลูกต้นไม้ตรงที่ที่ฝังเขาไว้ เป็นการทำให้ความทรงจำเป็นสิ่งที่สามารถจับต้องได้

หยิบยื่นความช่วยเหลือต่อสัตว์อื่น
ในเมื่อหัวใจยังเต็มไปด้วยความรักที่มีต่อสัตว์ตัวเล็กๆ ไม่ยากเลยที่เราจะแบ่งปันหัวใจให้ผู้ที่ต้องการ อาจเป็นในแง่ของความช่วยเหลือ เกื้อกูล ผู้เลี้ยงที่อยู่ในภาวะยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของสิ่งของ หรือเงิน “ยิ่งให้ยิ่งได้รับ” หลังการแบ่งปันเกิดขึ้น หัวใจของผู้ให้จะอิ่มฟูมากกว่าเดิม
กลับมาดูแลตัวเอง
หลายคนเศร้าโศกเสียใจกับการจากไปของสัตว์เลี้ยงที่ตัวเองรักดั่งคนในครอบครัว บางคนถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ บางคนอยู่ในภาวะเครียด ซึมเศร้า ไม่มีพลังใจจะทำสิ่งอื่นใด แต่อย่าปล่อยให้ตัวเองทนทุกข์ พยายามฝืนตัวเองให้กลับมาดำเนินชีวิตปกติให้ได้ ดูแลสุขภาพกาย ใจของตัวเอง หากิจกรรมอื่นทำบ้างเพื่อผ่อนคลายความรู้สึก หาเพื่อนคุยเพื่อระบายความรู้สึกในใจ
อย่าเพิ่งรับเลี้ยงสัตว์ตัวใหม่
ให้เวลากับความรู้สึกของตัวเองสักระยะหนึ่ง เพราะการเร่งรีบหาสัตว์เลี้ยงตัวใหม่เข้ามา อาจเกิดข้อเปรียบเทียบระหว่างสัตว์เลี้ยงตัวเก่าและตัวใหม่ นอกจากนี้ ยังป้องกันความรู้สึกผิดที่อาจก่อตัวขึ้นในใจ ว่าเป็นการหาตัวใหม่เพื่อมาทดแทน เพื่อให้ลืมตัวเก่า รอให้สภาพจิตใจดีขึ้น จนเมื่อรู้สึกพร้อมที่จะดูแลใครสักคนไปตลอดอายุขัย เวลานั้นไม่สายเกินไปที่จะรับเจ้าตัวยุ่งที่สร้างสีสันและความปั่นป่วนในชีวิตอีกครั้ง

ใส่ความเห็น